ไทยพ้นวิกฤตแล้งกลางฤดูฝน “โพดุล-คาจิกิ”ช่วยเติมน้ำ4เขื่อนใหญ่

สำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาฯสทนช.
สำนักงานทรัพยากรน้ำคาดการณ์พายุ 2 ลูกช่วยเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำในเขื่อนทั่วประเทศพ้นวิกฤต “แล้งกลางฤดูฝน” ปีนี้ไปได้ แต่ต้องเร่งเก็บน้ำต่อไปจนถึงฤดูแล้งปี 2563 คาด 1 พ.ย.ทั้งประเทศมีปริมาตรน้ำใช้การได้ 30,000 ล้าน ลบ.ม. ต่ำกว่าปี”61 แค่ 4,000 ล้าน ลบ.ม. ส่วนพายุที่เข้ามายังไม่ส่งผลกระทบแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

พายุดีเปรสชั่น 2 ลูก “โพดุล-คาจิกิ” ที่พัดผ่านเข้าสู่ประเทศไทยได้ช่วยให้สถานการณ์น้ำภายในประเทศดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-ภาคตะวันออก ในขณะที่อีกหลายจังหวัดต้องประสบปัญหาอุทกภัยเป็นการเฉพาะหน้า แต่ในระยะยาวจะช่วยลดความรุนแรงจากภัยแล้งที่จะมาถึงในปี 2563

นายสำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า อิทธิพลของพายุโพดุล ณ วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาทำให้ปริมาณน้ำของประเทศเพิ่มขึ้น 3,244 ล้าน ลบ.ม. และคาดการณ์จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.เพิ่มขึ้นอีก 2,027 ล้าน ลบ.ม. รวมมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากพายุโพดุลประมาณ 5,271 ล้าน ลบ.ม. และเชื่อว่าจากปริมาณฝนที่ตกทั้งประเทศจนกระทั่งถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้ 30,000 ล้าน ลบ.ม. เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 มีปริมาตรน้ำใช้การได้ 34,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะเขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ภูมิพล-สิริกิติ์-แควน้อยบำรุงแดน-ป่าสักชลสิทธิ์) ณ วันที่ 1 พ.ย.จะมีปริมาตรน้ำใช้การได้ประมาณ 9,005 ล้าน ลบ.ม. เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 มีปริมาตรน้ำใช้การได้ 12,840 ล้าน ลบ.ม.

ด้านสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่-กลางของประเทศ ณ วันที่ 3 กันยายน 2562 มีปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 20,976 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 40 มีน้ำไหลลงอ่างรวม 846.75 ล้าน ลบ.ม. น้ำระบาย 192,73 ล้าน ลบ.ม.เฉพาะเขื่อนภูมิพล+สิริกิติ์มีปริมาตรน้ำใช้การได้รวมกัน 3,393 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 21 (น้ำไหลลงอ่างเขื่อนภูมิพล 98.35 ล้าน ลบ.ม.-สิริกิติ์ 76.69 ล้าน ลบ.ม.)

ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จากที่ไม่มีน้ำไหลลงอ่างเลยก็เริ่มมีน้ำไหลวันละ 17-18 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้มีปริมาตรน้ำใช้การได้ 102 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 11

ส่วนสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขื่อนอุบลรัตน์เริ่มมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างวันละ 20.88 ล้าน ลบ.ม. ปริมาตรน้ำใช้การได้ติดลบน้อยลงเหลือ -5% (ปริมาณยังไม่พ้นระดับ Dead Storage) เขื่อนลำปาว 76.11 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิรินธร 95.49 ล้าน ลบ.ม.

นายทรงศักดิ์ ทองไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงน้ำท่วมใหญ่ที่ อ.บ้านไผ่มากที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร-ร้านค้าปลีก-ค้าส่งในอำเภอเมืองทำให้สินค้าเสียหายค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมทั้งจังหวัดยังไม่ได้รับผลกระทบ สามารถรับออร์เดอร์จากลูกค้าและผลิตได้ตามปกติ เพราะโรงงานตั้งอยู่พื้นที่สูง ซึ่งจะเป็นโซนอำเภอน้ำพอง อำเภอบ้านฝาง อำเภอชุมแพ

ขณะที่นายศักดิ์สิทธิ์ ยนต์ตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่าลำน้ำที่อยู่บริเวณรอบเขตเทศบาลเมืองเริ่มเต็ม ส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองประมาณ 995 ครัวเรือน และน้ำท่วมนาข้าวมากกว่า 10,000 ไร่ และเตรียมความพร้อมรับมือพายุลูกที่ 2 แล้ว ส่วนของภาคอุตสาหกรรมยังไม่มีผลกระทบ เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากทางน้ำ ส่วนเทศบาลหนองคายก็กำลังเตรียมรับมือพายุคาจิกิ