ผูกขาดชาติเสียประโยชน์!! กฟผ. ยืนยันต้องเปิดเสรี สหภาพฯต้านกบง.ล้มประมูลแอลเอ็นจี

วิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายฝลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ผู้บริหาร กฟผ.ออกแถลงการณ์ข้ามประเทศถึงพนักงาน “ยืนยันต้องเปิดเสรี” ขณะที่สหภาพแรงงานเคลื่อนไหวยื่นหนังสือรมว.พลังงาน คัดค้าน มติ กบง. ล้มประมูลนำเข้าแอลเอ็นจี ของกฟผ. หวั่นทำให้เกิดการผูกขาดประชาชนเสียประโยชน์ ยืนยันการประมูลนำเข้าLNG ของกฟผ.ได้ต้นทุนต่ำ ช่วยประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้า 3หมื่นล้าน

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายฝลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่า การผลิตไฟฟ้าทุกอย่างเป็นปกติ มั่นคง ไร้ปัญหา แม้วันนี้ (6 กย. ) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(สร.กฟผ.) จะมีการนัดแต่งดำและไปยื่นหนังสือถึง รมว.พลังงานคัดค้านมติ คณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)เมื่อวันที่30 ส.ค.62 เพื่อยกเลิกประมูลนำเข้า แอลเอ็นจี ก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าการ กฟผ. ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางดูงานที่ประเทศสเปนพร้อมทีมผู้บริหาร ได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงเป็นการภายในกับ พนักงาน กฟผ.เพื่อสร้างความเข้าใจลดข้อห่วงใย และข้อกังวลของผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการทำงาน โดยระบุว่าก่อนประชุม กบง.ที่มีมติล้มประมูลดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ก.ย.62 ได้มีการประชุมระหว่างฝ่ายนโยบายของกระทรวงพลังงาน และคณะผู้บริหารกฟผ. ฝ่ายนโยบายได้ให้คำมั่นยังคงยืนยันนโยบายการเปิดเสรีระบบก๊าซธรรมชาติเหลวอยู่ เพียงแต่ขอทบทวนปริมาณความต้องการใช้ภายในประเทศไห้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และหากประเมินว่าเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าก๊าชธรรมชาติเพิ่มติมแล้วยังยืนยันหลักการเดิมที่มอบหมายให้ กฟผ. เบ็นผู้นำเข้าเป็นรายแรก ต่อจากผู้นำเข้าที่มีอยู่เดิมรายเดียว นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการพิจารณาปริมาณการนำเข้าของ กฟผ. ว่าควรจะเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ของปริมาณตามต้องการใช้งานโดยรวมเพื่อเป็นกรอบหลักการดำเนินงานในอนาคต

ทั้งนี้คณะผู้บริหารกฟผ.คาคว่า การพิจารณาในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมจะดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ของฝายนโยบายกระทรวงพลังงานในอนาคตต่อไป ขอให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจและเชื่อใจต่อความตั้งใจจริงของฝ่ายนโยบายที่พิจารณาประโยชน์ในภาพรวมของประเทศชาติ และประโยชน์ในการพัฒนาและส่งเสริมกฟผ. เป็นเสาหลักด้านพลังงานหน่วยงานหนึ่งของประเทศต่อไป

ทั้งนี้ กฟผ.ยืนยันมาตลอดว่าที่ผ่านมา กฟผ.ได้ดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการเปิดประมูลนำเข้าแอลเอ็นจี จนได้ราคานำเข้าที่ต่ำกว่าทุกสัญญานำเข้าของประเทศ โดยคำนวณแล้วหากนำเข้าได้ตามการประมูลไม่เกิน1.5 ล้านตัน/ปี จะมีมูลค่านำเข้ากว่าแสนล้านบาท ซึ่งจะประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ซื้อจากในระบบการค้าก๊าซในปัจจุบันที่ บมจ.ปตท.เป็นผู้ดำเนินการถึง 3 หมื่นล้านบาท

ในขณะเดียวกันยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพิทักษ์พลังงานไทย ซึ่งแกนนำคือนายพิเชษฐ์ ชูชื่น อดีตพนักงาน กฟผ.ได้ออกแถลงการณ์เมื่อ 4 ก.ย. และยื่นหนังสือถึง รมว.พลังงาน ขอคัดค้านและต่อต้านการผูกขาดพลังงานไฟฟ้าและพลังงานอื่นๆ และขอปกป้ององค์กรภาครัฐที่เป็นสาธารณูปโภคให้มีอิสระในการพัฒนากิจการขององค์กรนั้นอย่างมืออาชีพ โดยระบุว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์การลงทุนการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกผูกขาดโดยกลุ่มทุนพียงไม่กี่กลุ่มซึ่งในอนาคตจะทำให้ประเทศไทยตกเป็นเหยื่อผูกขาด