“จุรินทร์” เดินสายรับฟังโครงการประกันรายได้ก่อนคิกออฟเริ่มโครงการข้าว ปาล์ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนมีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด (14 กันยายน 2562) เพื่อประชุมชี้แจงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนถึงโครงการนโยบายประกันรายได้เกษตรกร เนื่องจากเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ข้าวจะเริ่มจ่ายเงินให้กับเกษตรกรในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป อีกทั้งยังมีกำหนดการไปพบปะหารือกับสหกรณ์การเกษตรเกษตร เพื่อรับฟังการดำเนินงานของสหกรณ์ และตรวจเยี่ยมศูนย์กระจายสินค้าการเชื่อมโยงสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรผลไม้จากภาคใต้อีกด้วย

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรในผลผลิตเกษตร 5 ชนิด คือข้าว ปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพด และในโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวนั้นจะใช้วงเงิน 21,495 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้ราคาข้าวให้ชาวนาที่ปลูกข้าว 5 ชนิด ซึ่งมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปลูกข้าวปี 2562 จำนวน 892,176 ครัวเรือน ระยะเวลาโครงการต.ค.2562-ต.ค.2563 ประเภทข้าวที่ได้รับประกัน คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน , ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

อย่างไรก็ดี ในส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมทั้งหมด ทั้งการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งการขึ้นทะเบียนจะต้องมีการตรวจสอบให้ตรงกับข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันให้มีการทุจริต ในการแจ้งเท็จ สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ที่จะเป็นหน่วยงานที่จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรก็มีความพร้อม

ในส่วนของการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรก 1 ตุลาคมนี้ สำหรับปาล์มน้ำมันจะประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างจากราคารับซื้อปาล์มน้ำมันคุณภาพที่ 18 เปอร์เซ็นต์ให้กับเกษตรกรรายละไม่เกิน 25 ไร่ ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)

ส่วนข้าวเปลือกเริ่มจ่ายงวดแรกวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ซึ่ง จะใช้ราคาตลาดเฉลี่ย ทุก 15 วัน ส่วนยางพารา ได้รับแจ้งจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เบื้องต้นจะประกันรายได้ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ไม่เกินรายละ 25 ไร่

สำหรับมันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จะมีการเรียกหารือ 3 ฝ่ายคือภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรในเร็วๆนี้ ส่วนโครงการประกันรายได้ยางพารานั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดของหลักเกณฑ์เชื่อว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้

ขณะที่โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมันวงเงิน 13,378 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ที่ขึ้นทะเบียน 3 แสนราย ระยะเวลาโครงการ ส.ค. 2562-ก.ย. 2563 ผลปาล์มทะลายที่เข้าโครงการจะต้องมีคุณภาพน้ำมัน 18% กิโลกรัมละ 4 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โดยใช้เกณฑ์ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 3 บาท บวกค่าขนส่ง กิโลกรัมละ 0.25 และผลตอบแทนให้เกษตรกร 23% หรือกิโลกรัมละ 0.75 บาท ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว อายุไม่น้อยกว่า 3 ปี