เชฟรอน รุกสถานีบริการน้ำมัน แฟลกชิพ หวังดันยอดขาย 7 แสนลิตรต่อเดือน

นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” เปิดเผยว่า  จากการเติบโตของความต้องการน้ำมันและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก  เช่น ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และกัมพูชา บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะลงทุนและพัฒนาเพื่อเพิ่มปริมาณยอดขายน้ำมันให้มีการเติบโตมากขึ้น

“จากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและคุณภาพของน้ำมันของบริษัท ประกอบกับผลการศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค การตลาดที่เปลี่ยนไปจึงทำให้บริษัทมีการพัฒนาต่อยอด โดยได้มีการจัดทำแฟลกชิพแห่งแรกของประเทศไทย และเพิ่มกลยุทธ์ใหม่เข้ามา ต่อยอดในธุรกิจ ในปีที่ผ่านมา และปีนี้ด้วย”

ทั้งนี้ จากภายใต้กลยุทธ์ Smart Value for All ของบริษัท ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ Smart Station , Smart service ,Smart Digital platform , Smart Partnership และ Smart Product ด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทในช่วงปี 2561-2564 ล่าสุดบริษัทได้เปิดสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์รูปแบบใหม่  Caltex  Smart Station  แห่งแรก ที่สาขาไฮเท็กซ์ เพชรพระเทพเขตตลิ่งชัน ซึ่งถือเป็น แฟลกชิพ แห่งแรกของประเทศไทยที่จะสร้างคุณค่าและความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเปิดสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ เพิ่มอีก 50 แห่งต่อปีตามแผนของปี 2562 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการน้ำมัน 370 สาขาทั่วประเทศ และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการก่อสร้างและเจรจาทำสัญญาภายในไตรมาส 4 ของปีนี้อีกหลายแห่ง เช่น ที่สาขาพอร์โต้ โก ท่าจีน บนถนนพระราม 2 และ jas อมตะ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนเรื่องของ Smart Digital platform เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยระบบการชำระเงิน ด้วยเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย ที่จะให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และพร้อมนำเสนอบริการผ่านแอปพลิเคชั่น CaltexGo ที่เป็นแอปพลิเคชั่น  บนมือถือเพื่อการชำระเงิน ซึ่งเริ่มนำร่องภายใต้โครงการ family and Friends ไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการ ในสถานีบริการน้ำมันแบบครบวงจรเพื่อความสะดวกสบายให้กับลูกค้า อาทิ Starbucks , KFC , Burger King ,มินิ บิ๊กซี ,รวมถึงการให้บริการล้างรถ Washched และ J Wash ที่จะคอยให้บริการ อย่างเต็มที่ สำหรับ ร้านกาแฟ EXPRESSO by Gloria Jean’s  ปัจจุบันเปิดให้บริการไปแล้ว 6 สาขา  พร้อมมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีกด้วย อย่างไรก็ดีการมุ่งมั่นพัฒนาภาพลักษณ์การให้บริการรูปแบบใหม่ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ครั้งนี้ เพื่อต้องการและมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใข้บริการ เอกสารเพื่อขับเคลื่อนเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ให้มีการเติบโตที่เข้มแข็งและยั่งยืนในประเทศไทยต่อไป

นายซาลมาน กล่าวอีกว่า  การเปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมัน แฟลกชิพที่เมืองไทยแห่งแรกรับว่าจะเป็นต้นแบบที่จะขยายการให้บริการ ไปในส่วนอื่นๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เบื้องต้นมีเป้าหมายที่จะ สร้างสถานีบริการน้ำมันแฟลกชิพ 6 สาขาในประเทศไทย และในการขยายสถานีบริการน้ำมันปีละ 50 แห่งนั้น ใน 15-20 สถานีบริการน้ำมันจะเป็นในรูปแฟลกชิพที่จะคอยให้บริการแก่ลูกค้า การเลือกสถานที่ในการจัดตั้งนั้น  ก็จะพิจารณาตามขนาดของพื้นที่และความค้องการใช้น้ำมันของลูกค้า รวมไปถึงคู่ค้าสำคัญของบริษัทด้วยซึ่งจะมีการลงทุนและออกแบบในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

ส่วนเรื่องของความกังวลในด้านการแข่งขันนั้นยอมรับว่าในการแข่งขันอย่างรุนแรงแต่ทางบริษัทจะต้องมีการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อนำมาใช้และให้บริการแก่ลูกค้าในสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เราต้องยอมรับว่าบริษัทยังมีจุดแข็งในเรื่องของคุณภาพของน้ำมันที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าอยู่ ปัจจุบันสัดส่วนการตลาดของบริษัทอยู่ที่ 8.3 % โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีบริษัทยังคำนึงถึงการเพิ่มปริมาณยอดขายต่อสถานีบริการน้ำมันอย่างมาก

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายน้ำมันเฉลี่ยต่อสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 270,000 ลิตรต่อเดือนต่อสถานีบริการน้ำมัน ทั้งนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอกขาย 700,000  ลิตรต่อเดือนต่อสถานีบริการน้ำมัน จากการลงทุนสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ด้วย ส่วนการเพิ่มความแตกต่างในการให้บริการน้ำมันของบริษัทนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ของผู้บริโภคโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลและในพื้นที่ต่างจังหวัด จะให้บริการที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ในต่างจังหวัดเมื่อมีการใช้รถบรรทุกเยอะจะสนับสนุนการใช้บี 20 เพื่อตอบสนองให้กับผู้บริโภคเป็นต้น