“เฉลิมชัย” เร่งถกบิ๊กตู่ กรณีขาดแคลนอัตรากำลัง-งบซ่อมแซมเครื่องบินฝนหลวง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เตรียมหารือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดูแลบุคคลากรฝนหลวง เนื่องจากขณะนี้กรมฝนหลวงเกิดสถานการณ์วิกฤติขาดแคลนกำลังคน ซึ่งหลังจากเข้ามารับตำแหน่งได้ได้ทำเรื่องเสนอขอกำลังคนจากสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อมาทดแทนและปฏิบัติการฝนหลวง เพราะช่วงที่ผ่านมามากกว่า 8 เดือน นักบินฝนหลวงทำงานไม่มีวันหยุด แต่ยังไม่ได้กำลังคนเพิมตามที่ขอ จึงต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีเป็นการเร่งด่วน

ส่วนของเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานที่มาก ทั้งหมดนี้ต้องหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะภารกิจฝนหลวงต้องดำเนินการต่อเนื่อง ในส่วนของการซ่อมบำรุง มีการกำชับมาตลอดตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ว่าต้องดูแลอย่างดีเพราะการปฏิบัติภารกิจฝนหลวงต้องปลอดภัย ส่วนการจำขอความร่วมมือกับกองทัพอากาศเพื่อนำเครื่องของทหารมาใช้ในการทำฝนหลวง เบื้องต้นได้ สอบถามผู้ปฏิบัติงาน ได้รับข้อมูลว่า เครื่องบินทหาร หากต้องมาโปรยฝนเทียมจะทรงตัวไม่ดี ไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน

“ต้องนำเรื่องของเครื่องบินฝนหลวงที่มีอายุการใช้งานนาน หารือนายกรัฐมนตรี ว่าจะพิจารณาอย่างไร อัตรากำลังที่ขาดแคลนมีการขอเพิ่มจาก ก.พ.ก็ยังไม่ได้ ทั้งเรื่องของเครื่องบินฝนหลวงและกำลังคน ทั้งหมดต้องแล้วแต่ว่านายกรัฐมนตรีจะว่าอย่างไร”

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ที่เครื่องบินฝนหลวงตก ส่งผลให้นักบินทั้งครูฝึกและนักบินฝึกหัดเสียชีวิตรวม 2 คนนั้น กระทรวงเกษตรฯได้สั่งการให้ทำหนังสือขอธงชาติเพื่อคลุมร่าง เป็นเกียรติประวัติ ดูแลสวัสดิการ เยียวยา ทั้งหมดอย่างดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น

ทั้งนี้เมื่อเดือนก.ค.2562 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เคยออกมาระบุว่า หากไม่ได้อัตรากำลังคนเพิ่ม อีกไม่เกิน 4-5 ปีกรมฝนหลวงจะไม่สามารถขึ้นบินและปฏิบัติภารกิจฝนหลวงได้และขาดแคลนกัปตันเนื่องจาก 8 เดือนที่ผ่าน ขณะนั้นมีนักบินฝนหลวงที่มีอยู่ 79 อัตรา แบ่งเป็นกัปตัน 45 คน นักบินผู้ช่วย 26 คนทำงานไม่เคยมีวันหยุด เพราะอัตรากำลังที่ต้องการตาม จำนวนอากาศยาน ควรมี 137 อัตรา จึงขอกำลังเร่งด่วน 44 อัตรา และระยะ 2 อีกจำนวน 14 อัตรา

รายงานข่าวจากกระทรวงกระเกษตรอละสหกรณ์ระบุ สำหรับ สิทธินักบินที่จะได้รับในการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการ มีดังนี้
ร.อ.ตฤน อัมระนันท์ สิทธิที่จะได้รับบำเหน็จตกทอดสำหรับทายาท 1,882,520 บาท เงินค่าช่วยเหลือพิเศษ (ค่าทำศพ) 222,930 บาท เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ (สงเคราะห์) 100,000 บาท กองทนฝนหลวงฯ 100,000 บาท กองทุนสวัสดิการกรม 5,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 2,410,450 บาท ยังไม่รวมเงินจากกองทุน สำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำส่วนราชการ (กสจ.)​

ส่วนนายสุขสันต์ จงเสถียรธรรม สิทธิที่จะได้รับจากกองทุนทดแทนจากการประสบอันตราย 1,680,000 บาท ค่าทำศพ 33,000 บาท เงินจากกองทนฝนหลวง 100,000 บาท เงินจากกองทุนสวัสดิกากรม 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,818,000 บาท