นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และสภาผู้แทนราษฎร ว่า การประชุมในครั้งนี้ได้มีการหารือเรื่องงบประมาณปี 2563 ที่สำนักงบประมาณแผ่นดินได้พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมมาธิการฯ
โดยกระทรวงฯได้เสนอของบประมาณไปทั้งสิ้น 1.1 แสนล้านบาท แต่การพิจารณาปรับลดจะอยู่ที่ดุลยพินิจคณะกรรมาธิการ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจัดตั้งขึ้น ทั้งนี้กระทรวงฯจะเสนอที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้เพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนการหารือโครงสร้างอำนาจหน้าที่กระทรวงฯได้มีการหารือช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง และน้ำท่วม โดยได้ยกมาเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของการแบนสารเคมีที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส นั้นยังขอย้ำจุดยืนในการแบนสารดังกล่าว และได้มอบหมายให้ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่มีอำนาจกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อยังไม่มีมติยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย ทางกระทรวงเกษตรฯ จึงต้องบังคับใช้กฎหมายเท่าที่มี โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ประโยชน์ของประชาชนที่อุปโภคบริโภค รวมถึงเกษตรกรด้วย
“ที่ผมไม่พูดเพราะมีกฎหมายบังคับอยู่แล้ว ผมขอย้ำว่าผมสนับสนุนให้แบน 3 สารเคมี ในฐานะที่ผมก็เป็นเกษตรกรคนหนึ่ง หากมีมติผมพร้อมลงนามทันที ส่วนงบปี63 หากเป็นได้ก็ไม่อยากให้มีการพิจารณาปรับลดในส่วนใดเลย เพราะทุกภารกิจของกระทรวงที่เสนอไปล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรทั้งสิ้น”
นอกจากนี้ ในเรื่องของโครงการประกันรายได้ยางพารา ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กระทรวงเกษตรฯ และภาคเอกชน เพื่อหารือแนวทางการประกันราคายางพารา ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายยางพาราธรรมชาติ (กนย.) โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน