ชุลมุน 3 สารเคมี! ‘มนัญญา’ ลุยตรวจสต๊อกอีก ลั่นปิดจ็อบได้แน่ปีนี้

ชุลมุน 3 สารเคมี! ‘มนัญญา’ ลุยตรวจสต๊อกอีก ลั่นปิดจ็อบได้แน่ปีนี้ สภาเกษตรฯหนุนอีกเสียง ฝั่งกรมวิชาการเกษตรยันไม่ค้านแบนแต่ยึดตามกฎหมาย

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาสารเคมีเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลฟอเซต ว่า หลังมีการระงับใบอนุญาต และไม่มีการต่ออายุใบอนุญาตนำเข้าสารทั้ง 3 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแบนสารดังกล่าวให้หมดไปภายในปี 2562 โดยสุ่มตรวจบริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่าย ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ จากนั้นเดินทางไปยังบริษัทเดียวกันอีกแห่งในพื้นที่ เขตบางพลัด จ.กรุงเทพฯ พบว่าในปี 2561 มีการนำเข้าพาราควอต 580,000 กิโลกรัม (กก.) ส่วนปี 2562 ไม่มีตัวเลขแจ้งการนำเข้า แต่มีสตอกสารพาราควอตอยู่ 300,000 กก. โดยรับซื้อมาจากบริษัทภายในประเทศ ขณะที่ปี 2562 มีการนำเข้าไกลโฟเซต 500,000 กิโลกรัม เหลือสตอก 270,000 กิโลกรัม ส่วนบริษัทที่ 2 เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน ไม่มีสตอกสารเคมีคงค้าง โดยที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรจะเป็นคนกำหนดโควต้าสารเคมีดังกล่าว

“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว จุดประสงค์หลักคือต้องการตรวจสอบตัวเลขสตอกสารเคมีที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อนกัน อีกทั้งจากการสอบถามข้อมูลของผู้ประกอบการพบว่า การส่งออก 3 สารเคมีไปต่างประเทศ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า เพราะเป็นการให้เกษตรกรนำมาใช้ประโยชน์ และช่วยลดต้นทุนการผลิต ขณะที่การส่งออกก็ไม่เสียภาษี ดังนั้นตนจึงมองว่าเกษตรกรไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ จึงอาจเสนอแนวทางเก็บภาษีแก่ผู้ส่งออกสารเคมีดังกล่าว และนำเงินภาษีมาใช้ส่งเสริมโครงการที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกร อาทิ โครงการเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น” นางสาวมนัญญากล่าว

นอกจากนี้ จะรวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่ทั้งหมด โดยต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะนำไปเสนอพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เพื่อดำเนินการหาแนวทางในการยกเลิกสารเคมีดังกล่าวต่อไป

นายประภัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐปล่อยให้ทุกคนซื้อขาย 3 สารเคมีแบบเสรีต่อไปอีกไม่ได้ ต้องทำให้เกษตรกรมีความรู้ แม้ว่ามติการแบนสารจะออกมาต่างความเห็น และไม่ชัดเจน แต่สำหรับสภาเกษตรฯได้ผลักดันกฎหมาย พรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน ภายใต้พรบ.ได้ระบุชัดว่าให้ยกเลิกการใช้ 3 สาร ในการเกษตร ซึ่งในเรื่องนี้ตนมีการเสนอมา 3-4 ปีแล้ว ต้องจำแนกการใช้ให้ชัดไปจนถึงแบนแต่ยังไม่มีความคืบหน้า

ด้าน นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงประเด็นการดำเนินการของกรมฯเกี่ยวกับวัตถุอันตราย 3 ชนิด ว่า กรมฯเป็นเพียงหน่วยงานผู้ปฏิบัติตามข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการและตามข้อกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ไว้เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่เบ็ดเสร็จทั้งหมด โดยกรมฯพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามทิศทางที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการและภายใต้กรอบกฎหมายที่ให้ไว้ ขอยืนยันว่ากรมฯไม่ได้ต่อต้านการยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 ชนิดแต่อย่างใด แต่เป็นการให้ข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการเท่านั้น การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นอำนาจของคณะกรรมการที่ระบุไว้ชัดเจนตามกฎหมาย