ลุ้นผ่านมาตรฐาน AQSIQ “ข้าวอิ่มทิพย์” ลุยตลาดจีน

“ข้าวอิ่มทิพย์” ลุ้นผ่าน AQSIQ เล็งขยายค้าออนไลน์ส่งออกจีน มั่นใจดันยอดขายปี”63 โต 25% ชี้ปัจจัยเสี่ยงผลผลิตข้าวนาปีออกช้าจากภัยแล้ง-น้ำท่วม ไม่กระทบต้นทุนการผลิต

นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ข้าวอิ่มทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตข้าวถุงอิ่มทิพย์ และกินรี กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน สินค้านำเข้าจากสำนักงานควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบและกักกันโรคแห่งประเทศจีน (AQSIQ) หากสามารถรับรองได้ในปลายปีนี้ เชื่อว่าสัดส่วนการส่งออกในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นทำให้ยอดขายเติบโต 25% จากปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 20%

“ที่ผ่านมาจีนให้ความสำคัญกับการรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าจากต่างประเทศว่าต้องผ่านมาตรฐานก่อน อย่างไรก็ดี กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถรับรองมาตรฐานดังกล่าวได้ ทางบริษัทรอผลการรับรองการตรวจสอบสินค้านำเข้าประเทศจีน เพราะมุ่งจะขยายตลาดส่งออกประเทศจีนมากว่า 10 ปี จากเดิมที่เน้นทำตลาดในประเทศเป็นหลักสัดส่วนถึง 85% หากได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วจะเร่งทำตลาดออนไลน์ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการส่งออกสินค้าข้าวถุงให้มีโอกาสขยายตัวมากขึ้นจาก 15% เป็น 20% ได้ในปีหน้า”

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนตลาดหลักของบริษัท 10-15% เป็นตลาดส่งออก โดยตลาดหลัก คือ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโต จากความต้องการบริโภคข้าวเพิ่มขึ้น สำหรับข้าวที่บริษัทส่งออกไปมากที่สุด คือ ข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวถุงแบรนด์กินรีมีการผลิตหลายขนาด ตั้งแต่ 5 ถึง 25 กก. เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ มีตลาดเอเชีย เช่น จีน ซึ่งด้วยความเข้มแข็งของแบรนด์ แม้ราคาข้าวของประเทศจะสูงกว่าคู่แข่ง ก็ยังสามารถส่งออกได้

ขณะที่ตลาดในประเทศซึ่งบริษัทให้ความสำคัญ โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 85% ของยอดทั้งหมด โดยมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั้ง อุตสาหกรรม ภัตราคาร ภาครัฐ โรงพยาบาล โรงแรม และร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นรักษาและขยายตลาดให้เติบโต โดยผลิตข้าวถุงออกมาหลากหลายประเภทและหลายขนาด เช่น ข้าวมะลิซ้อมมือเพื่อสุขภาพ ข้าวขาวชนิดประหยัด ข้าวเสาไห้ 100% ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวหอมบัวชมพู เป็นต้น เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เพระต้องยอมรับว่าการบริโภคข้าวของคนไทยเปลี่ยนไปและด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกข้าว อีกทั้งการซื้อ-ขายง่าย ดังนั้น จึงต้องผลิตให้ตรงความต้องการและเป้าหมายของลูกค้ามากขึ้น

สำหรับกลยุทธ์การขยายตลาดเพื่อให้ยอดขายเติบโตตามเป้าหมาย บริษัทนั้นได้รุกทำตลาดออนไลน์เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยขณะนี้ได้ประสานขยายการจำหน่ายข้าวถุงอิ่มทิพย์เข้าไปยังแพลตฟอร์มสำคัญ ๆ เช่น ลาซาด้า ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ เนื่องจากต้องพิจารณากลุ่มลูกค้าด้วย

“ต้องยอมรับว่าตลาดข้าวถุงมีการแข่งขันสูง นอกจากแข่งขันกับผู้ประกอบการข้าวถุงเองก็ต้องแข่งขันกับกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่ผลิตข้าวถุงภายใต้แบรนด์ของตัวเองด้วย แต่บริษัทไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่เน้นการรักษาคุณภาพ จึงยังมั่นใจว่าการทำตลาดของข้าวอิ่มทิพย์ ยังเป็นไปในทิศทางที่เติบโต”


นายระพีพัชญ์ กล่าวถึงทิศทางของผลผลิตข้าวในปีนี้ ยังคงต้องติดตาม เนื่องจากยังประเมินไม่ได้ โดยคาดว่า ผลผลิตข้าวทั้งข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ ผลผลิตอาจจะออกล่าช้าจากปัญหาเรื่องของภัยแล้งและน้ำท่วม แต่คงไม่มีปัญหาต่อต้นทุนมากนัก เนื่องจากเป็นไปตามกลไกตลาดอยู่แล้ว ส่วนปัญหาค่าเงินบาทและปัญหาสงครามการค้านั้นยอมรับว่ามีผลกระทบต่อข้าวถุงอยู่บ้าง แต่บริษัทไม่ได้เน้นตลาดส่งออกเป็นตลาดหลัก อาจจะเกิดภายในประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักมากกว่า จากพฤติกรรมที่มีการบริโภคข้าวลดลง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปีหน้าบริษัทยังมองโอกาสที่ดีและสดใสอยู่และมั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน