ครม.ไฟเขียว ยกระดับฟาร์มไก่ไข่ เพิ่มขีดการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ครม.อนุมัติหลักการร่างกฏกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มไก่ไข่เป็นมาตรฐานบังคับ ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร เนื่องจากการทำฟาร์มไก่ไข่อย่างมีมาตรฐานจะสามารถควบคุมโรคระบาด ลดความเสี่ยงของโรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ และช่วยรักษาระดับคุณภาพสินค้า และเป็นหัวใจสำคัญในการเปิดตลาดการค้าไข่ไก่ในต่างประเทศ กระทรวงเกษตรจึงเสนอร่างกฏกระทรวงฉบับนี้ เพื่อยกระดับการปฏิบัติในฟาร์มไก่ไข่ให้มีมาตรฐาน อีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านมาตรฐานการปฏิบัติของฟาร์มไก่ไข่ของไทย ร่างมาตรฐานดังกล่าว ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย และแจ้งเวียนประเทศสมาชิกองค์กรการค้าโลก (WTO) แล้ว อีกทั้งได้ถูกประกาศเป็นมาตรฐานทั่วไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563

เมื่อร่างกฏกระทรวงฯ ได้ผ่านการอนุมัติจาก ครม.แล้ว จะถูกส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะใช้บังคับกับฟาร์มที่เลี้ยงไก่ไข่ ตั้งแต่จำนวน 100,000 ตัวขึ้นไป ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สำหรับฟาร์มที่เลี้ยงไก่ไข่ ตั้งแต่จำนวน 1,000 -99,999 ตัว ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ในระหว่างนี้ กระทรวงเกษตรจะเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เจ้าของฟาร์มสามารถปฏิบัติได้ถูกต้องเมื่อร่างกฏกระทรวงฯ มีผลบังคับใช้ และเข้าไปช่วยเหลือดูแลและนำการจัดการฟาร์มไก่ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานบังคับการทำฟาร์มไก่ไข่ ครอบคลุมตั้งแต่ 1) องค์ประกอบฟาร์ม (สถานที่ตั้ง ผัง และลักษณะฟาร์ม โรงเรือน) 2) การจัดการฟาร์ม (อาหาร น้ำ อุปกรณ์) 3) บุคลากร (หน้าที่ความรับผิดชอบ) 4) สุขภาพสัตว์ (การป้องกันและควบคุมโรค การรักษา) 5) สวัสดิภาพสัตว์ 6) การจัดการไก่รุ่น ไก่ระยะไข่และไข่ไก่ 7) สิ่งแวดล้อม และ 8) การบันทึกข้อมูล