พาณิชย์ กางแผนส่งออก 3 เดือนแรก ปี’63 รุกตลาดเต็มที่ “จุรินทร์” นำทัพบุกตลาดจีน-อเมริกา-ยุโรป ต.ค.- พ.ย.นี้

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมการส่งออกของไทยในปีงบประมาณ 2563 ว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าของไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้วางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นการส่งออกของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2563 เน้นการเร่งรัดการส่งออกสินค้าและบริการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ผักและผลไม้ รวมทั้งสินค้าบริการต่างๆ อาทิ สินค้าโอท็อป สินค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง แอนิเมชันและดิจิทัลคอนเทนต์ โดยชู 4 กลยุทธ์หลัก คือ

(1) รักษาและขยายตลาดเดิม อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อาเซียน และจีน

(2) เพิ่มตลาดใหม่ อาทิ เอเชียใต้ (อินเดีย) ลาตินอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง

(3) ฟื้นฟูตลาดเก่า เช่น ตลาดข้าวในประเทศอิรัก โลจิสติกส์เพื่อการส่งออกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ การจัดตั้งแหล่ง Thai Mart เพื่อกระจายสินค้าและศูนย์ค้าส่ง-ปลีกสินค้าสำคัญของไทยในบาห์เรน

(4) มุ่งเน้นการค้าชายแดนและข้ามแดนมากขึ้น พร้อมผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ อาทิ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Economy) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) สตาร์ทอัพ (Start Up) และ SMEs รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) และทูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆ

สำหรับแผนงานเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการส่งออกในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2562 มีแผนงานที่สำคัญกว่า 50 โครงการ อาทิ การจัดประชาสัมพันธ์สินค้าไทย การเจรจาธุรกิจ การจัดงานแสดงสินค้าในไทยและต่างประเทศ

การจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในประเทศไทย อาทิ การจัดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ Style Bangkok 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 ตุลาคม 2562 โดยมีผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 980 บริษัท 1,800 คูหา คาดการณ์ผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน การจัดงาน ASEAN Style คู่ขนานไปกับ การประชุมผู้นำอาเซียน หรือ ASEAN Summit 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2562 และ

การจัดงาน Sourcing Forum ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 พ.ย. 62 โดยมีคณะผู้นำเข้ากว่า 400 รายจากทั่วโลก เดินทางมาเจรจาการค้าในประเทศไทย มีสินค้าเป้าหมาย ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลไม้ สินค้าพลาสติกชีวภาพ (bio plastic) และอื่นๆ ในส่วนกิจกรรมในต่างประเทศ กรมพุ่งเป้าไปยังประเทศสำคัญ

อาทิ ตลาดจีน เน้นการประชาสัมพันธ์ผลไม้ของไทย การขยายตลาดออนไลน์สินค้าเกษตร อาหาร เครื่องประดับ ของใช้ การขยายสินค้าฮาลาลในมณฑลชั้นในของจีน โดยจัดโครงการยกระดับการส่งออกผลไม้และสินค้านวัตกรรมจากผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน ระหว่างวันที่ 25-26 ตุลาคม 2562 ณ เมืองหนานหนิง และนำผู้ประกอบไทยไทยจำนวน 46 ราย เข้าร่วมงาน China International Import Expo ณ นครเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างวันที่ 4- 6 พฤศจิกายน นี้

ตลาดสหรัฐอเมริกา – เน้นขยายฐานผู้นำเข้าและเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ขยายฐานตลาดสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรไทย โดยใช้สื่อดิจิทัล รวมทั้ง ใช้ร้านอาหารไทยที่ได้ Thai Select เป็นประตูในการขายสินค้าอาหารไทย รวมทั้งการเข้าร่วมงาน American Film Market 2019 ระหว่างวันที่ 6 -13 พฤศจิกายน 2562 และการจัดงาน Thai Night ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 เพื่อการขยายโอกาสธุรกิจ ภาพยนตร์ แอนิเมชันและดิจิทัลคอนเทนท์

โดยมี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน งาน Thai Night และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถวายการต้อนรับ

ตลาดอาเซียน – การเจาะหาผู้นำเข้าน้ำยาง รายใหม่ในมาเลเซียและการเจรจาการค้าในภาคใต้ของไทย ระหว่างผู้ประกอบการ 5 จังหวัดภาคใต้ และนักธุรกิจ 5 เมืองตอนเหนือของมาเลเซีย การจัด Top Thai Brands และ Mini Thailand Week ในเมืองหลักและเมืองรอง เจรจากระชับความสัมพันธ์กับหน่วยงานนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ และผลักดันการส่งออกสินค้าเป้าหมาย อาทิ ข้าว ผลิตภัณฑ์จากแป้ง ผัก ผลไม้ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม บริการก่อสร้าง รับจัดงาน และคอนเทนต์

ตลาดญี่ปุ่น – เน้นผลักดันข้าวไทยไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปในญี่ปุ่น การส่งเสริมข้าว Rice berry ในฐานะ Functional Food และส่งเสริมเมนูอาหารไทยพร้อมรับประทานร่วมกับบริษัท Food Services รวมทั้งการใช้โอกาสจากงานโอลิมปิก 2020 และงาน Japan World Expo 2025

ตลาดสหภาพยุโรปและรัสเซีย – กรมได้เร่งเจรจาผลักดันขยายตลาดในรัสเซีย ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตร (ผักและผลไม้สด) ผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ OCADO และส่งเสริมการตลาดผ่าน Online influencers ต่างๆ การนำคณะผู้ประกอบการสินค้าอาหารเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ANUGA 2019 ระหว่างวันที่ 5 – 9 ตุลาคม 2562 และผู้ประกอบการสินค้าทางการแพทย์ ร่วมงานแสดงสินค้า MEDICA 2019 ระหว่างวันที่ 18 -21 พฤศจิกายน 2562 ณ ประเทศเยอรมนี

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีกำหนดเดินทางเยือนตุรกีและเยอรมนี เพื่อหารือกับผู้นำเข้า/นักลงทุนรายใหญ่ และร่วมงานแสดงสินค้าทางการแพทย์ Medica 2019 คาดว่าจะมีการลงนาม MOU จำนวน 2-3 ฉบับ และเจรจาการค้าเกี่ยวกับสินค้ายางพาราและสินค้าอื่น ๆ

ตลาดอินเดีย – การเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยและเทศกาลสินค้าไทยร่วมกับห้างค้าปลีกเครือ Future Group และ Reliance Group โดยให้นำเข้าสินค้า non-food จากไทยมากขึ้น เช่น เวชสำอาง เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น พร้อมเจาะเมืองรอง อาทิ ปูเน่ บังกาลอร์ สุรัต อินดอร์ไฮเดอราบัด กัลกัตตา และรัฐเจ็ดสาวน้อย ผ่านงานแสดงสินค้า Top Thai Brands และการขยายตลาดออนไลน์ โดยร่วมมือกับเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย Bigbasket

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 17 -21 ตุลาคม 2562 นักธุรกิจอินเดียกลุ่มวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เยี่ยมชมงาน Style Bangkok 2019 ที่จะจัดขึ้น ณ ไบเทค บางนา รวมถึงการเจรจาการค้า กลุ่มสินค้ายางพารา ไม้ยางพารา ยางล้อ เฟอร์นิเจอร์ แป้งมันสำปะหลัง ผลไม้ อาหาร บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายชีวภาพ การเตรียมการลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ Bigbasket และเตรียมการลงนาม MOU ซื้อขายยางพาราระหว่าง บมจ. ไทยฮั้วยางพาราและบริษัทยาง Apollo Tyres ของอินเดีย ปริมาณ 50,000 ตัน มูลค่า 3,750 ล้านบาท ในงาน Sourcing Forum ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562

ตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศเดินทางไปเจรจาฟื้นฟูตลาดข้าวในอิรัก และได้เชิญ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เข้าร่วมผลักดันการส่งออกในตะวันออกกลาง และเข้าร่วมแสดงสินค้า Gulf food ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 20 กุมภาพันธ์ 2563

และ ใช้โอกาสนี้หารืองาน Dubai World Expo 2020 (ตุลาคม 2562 – เมษายน 2563) ผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้ง ใช้ดูไบเป็น Multi Model Logistics Hub สำหรับสินค้าไทยไปยังตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และยุโรป

ลาตินอเมริกา เน้นกิจกรรมการนำคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในลาตินอเมริกา และจัดคณะผู้นำเข้าเข้ามาเจรจาการค้าในไทย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุน โดยมีสินค้าเป้าหมาย อาทิ ยางพารา ถุงมือยาง ผลไม้อบแห้ง ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ชิ้นส่วน ยานยนต์ ไม้อัด ไม้ MDF

นายสมเด็จฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละตลาดจะมีการเน้นการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมผูกใจมิตรแท้ มอบรางวัลคู่ค้าดีเด่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าในตลาดสหรัฐอเมริกา จีนและฮ่องกง เป็นต้น