“เฉลิมชัย” ตั้งคณะทำงานเร่งผลักดัน พรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน มุ่งเป็นครัวโลกอย่างแท้จริง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแและสหกรณ์ เปิดเผยในงานคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตรครบปีที่ 52 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมศกนี้ว่า ทางกระทรวงเกษตรฯได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ที่มีการปัดฝุ่นส่งเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ล่าช้ามากว่า 10 ปี หากร่างพรบ.ฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ก็จะเป็นทางออก เป็นแนวทางของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลกอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม หลายคนอยากให้ประเทศไทยเป็นเกษตรอินทรีย์ ตนเห็นด้วย แต่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เป็นเกษตรอินทรีย์ปลอม ควรทำให้ปลอดภัยก่อน ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค แต่สังคมทุกวันนี้ไม่ได้คุยกันด้วยเหตุด้วยผล จึงอยากให้ทุกคนมารับผิดชอบร่วมกันมากขึ้น

Young Smart Farmer ที่มาในวันนี้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรไทยสมัยใหม่ ตนอยากให้Young Smart Farmer ไปชักจูงรุ่นพ่อรุ่นแม่ปรับเปลี่ยนการทำเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรที่มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากและเข้าถึงเกษตรกรต้องดึงคนรุ่นใหม่เข้ามา มิเช่นนั้น เกษตรกรจะโงหัวไม่ขึ้น ต้องช่วยกันสร้างประเทศ ต้องเชื่อมต่อเกษตรแปลงใหญ่ สมาร์ทฟาร์มเมอร์และเทคโนโลยี ถ้ามีพี่เลี้ยงดีเกษตรกรเขาจะมีกำลังใจ มีหลักประกัน สิ่งที่ดีอยู่แล้ว ตนจะไม่ยกเลิกเด็ดขาด เช่น เกษตรแปลงใหญ่ ทำแล้วดีขึ้น ดีกว่าต่างคนต่างทำ ฉะนั้นจึงให้ไปพิจารณาว่าจะทำให้ดีขึ้นเพิ่มขึ้นอีกได้ไหม

ทางด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรคนใหม่ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2563 กรมได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและของกระทรวงเกษตรฯ ในการช่วยเหลือดูแลและสร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยเฉพาะนโยบาย”การตลาดนำการเกษตร” ซึ่งต้องบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งของภาคเกษตรในระดับฐานราก ด้วยการส่งเสริมการผลิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาเกษตรกรและองค์กรเกษตรกร มุ่งเน้นขับเคลื่อนการดำเนินงาน 6 ประเด็นคือ

1.ขยายผลโครงการพระราชดำริให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและสืบสานศาสตร์พระราชา เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง การส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงและสืบสานศาสตร์พระราชา ยึดแนวทางสืบสาน รักษา ต่อยอดศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ตลอดปี 2.บริหารจัดการสินค้าเกษตรโดยยึดหลักการตลาดนำการเกษตรและสร้างรายได้แก่เกษตรกร3.พัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรรุ่นใหม่ 4.สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายและบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน พัฒนาศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.)ของศูนย์เครือข่าย ให้มีความเข้มแข็งทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ 5.ช่วยเหลือดูแลและให้บริการแก่เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติและ 6.พัฒนาองค์กร ระบบการทำงานและบุคลากรกรม โดยพัฒนาระบบข้อมูล Big Data ระบบเทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆที่ทันสมัยเพื่อให้บริการเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ