เฮรับปีใหม่! กกพ.ตรึงค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย.63

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ.ให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนมกราคม-เมษายน 2563 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย ต่ออีก 4 เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 6,869 ล้านบาท ในการบริหารจัดการค่าเอฟที

ทั้งนี้ เงินในการบริหารจัดการเอฟทีในงวดประจำเดือนมกราคม- เมษายน 2563 มาจากเงินที่ได้จากค่าปรับกรณีโรงไฟฟ้าไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาและกรณีขาดส่งก๊าซธรรมชาติ จำนวน 264.97 ล้านบาท และส่วนที่เหลือประมาณ 6,604 ล้านบาท มาจากการกำกับฐานะการเงินให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ กกพ. กำหนด ซึ่งเป็นผลจากการประมาณการค่าเชื้อเพลิงในงวดปัจจุบัน หรือระหว่างเดือนกันยายน- ธันวาคม 2562 เทียบกับราคาค่าเชื้อเพลิง ณ ปัจจุบัน ยังต่ำกว่าที่ประมาณการที่ตั้งไว้และทำให้ยังมีเงินคงเหลือในการบริหารจัดการค่าเอฟที

“แนวโน้มปัจจัยหลายตัวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีปรับตัวดีขึ้นกว่างวดก่อนอาทิ ราคาก๊าซที่มีแนวโน้มลดลง อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ทำให้ค่าเอฟทีปรับลดลงได้ในทันที แต่ก็ทำให้ กกพ. สามารถบริหารจัดการค่าเอฟทีได้ดีขึ้น และด้วยความตระหนักถึงการมุ่งลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและการสนับสนุนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้ปรับตัวดีขึ้น กกพ.ยังคงต้องบริหารจัดการค่าเอฟทีต่อเนื่อง และมีมติตรึงค่าเอฟทีต่ออีก 4 เดือน” นางสาวนฤภัทรกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟทีในงวด ม.ค.-เม.ย. 2563 ประกอบด้วย ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน​ 2563 เท่ากับ 65,724 ล้านหน่วยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนกันยายน​-ธันวาคม​ 2562 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 64,195 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 2.38% ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อน สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2563 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 57.71% ถ่านหิน 17.62% และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 14.75%

นางสาวนฤภัทรกล่าวต่อว่า แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าคาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับ 266.69 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 23.70 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าเอกชน อยู่ที่ 2,471.60 บาทต่อตัน ปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 267.71 บาทต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนกันยายนเท่ากับ 30.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ แข็งค่ากว่าช่วงที่ประมาณการในงวดเดือนกันยายน​- ธันวาคม​ 2562 ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​