เซลส์แมน “จุรินทร์” ลุยขายรอบโลก

ช่วง 3 ไตรมาสแรก 2562 การส่งออกไทยยังอยู่ในแดนลบ 2.11% มูลค่า 186,572 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเป้าหมาย 4 รายการ ติดลบทั้งหมด เช่น ข้าว ส่งออกติดลบ 28% มันสำปะหลัง ลบ 17% ยางพารา ลบ 8.03% เป็นผลจากภาวะการค้าโลกซบเซา เงินบาทแข็งค่าทำให้แข่งขันลำบาก

ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 5 เดือนนับจากที่ “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นอกจากวางนโยบายยกระดับราคาสินค้าเกษตร สำคัญ 4 รายการ ได้แก่ ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน เพื่อให้เกษตรกรมีระดับรายได้ที่มั่นคง แล้ว ยังได้มุ่ง “ขยายตลาดสินค้าเกษตร” เพื่อระบายผลผลิตคู่ขนานกันไปด้วย

นายจุรินทร์ได้วางบทบาทตนเองเป็น “เซลส์แมนประเทศ” ทั้งยังมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ เร่งทำตลาดผลักดันการส่งออกเชิงรุกด้วย

ในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ได้กระจายการเดินทางไปทุกภูมิภาคทั่วโลก กว่า 5 ประเทศ สร้างรายได้กว่า 60,000 ล้านบาททั้ง

1) เอเชียตะวันออกมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นหลัก โดยนำคณะไปเยือน 2 ครั้ง เดือนกันยายนและพฤศจิกายน

2) ตลาดเอเชียใต้ ได้เยือนอินเดียช่วงเดือนกันยายน

3) ตลาดสหรัฐ ร่วมงาน American Film Market (AFM) 2019 และพบปะผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิไทยด้วยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

4) ตลาดสหภาพยุโรป ได้เยือนตุรกีและเยอรมนี ระหว่างวันที่ 12-19 พฤศจิกายน 2562

นายจุรินทร์เปิดเผยผลการเยือนประเทศต่าง ๆ ว่า มีการสั่งซื้อสินค้าจากจีน 16,780 ล้านบาท สหรัฐ 2,000 ล้านบาทตุรกีได้ลงนาม MOU เพื่อซื้อขายสินค้ารวม 11 คู่ มูลค่า 15,512 ล้านบาท ช่วยเพิ่มมูลค่าส่งออกได้ทันที สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการส่งออก และช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรกร

ส่วนโค้งสุดท้ายปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเตรียมจัด”โครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป” ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างผู้ประกอบการไทย 195 บริษัท และต่างประเทศ 177 บริษัทคาดว่ามียอดซื้อขายไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท และในปี 2563 จะนำคณะเยือนตลาดสำคัญ เช่น จีน อินเดีย เป็นต้น ทั้งหมดนี้ยังคงต้องติดตามว่าจะช่วยพลิกฟื้นการส่งออกกลับมาได้หรือไม่