บาฟส์ทุ่มลงทุน 3 พันล้าน รุกธุรกิจส่งน้ำมันอู่ตะเภา

“บาฟส์กรุ๊ป” ทุ่มทุน 3,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจให้บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในสนามบินอู่ตะเภา-แถบเอเชียเผยโครงการขนส่งท่อที่ลำปาง รวมถึงถังเก็บน้ำมันที่สุวรรณภูมิใกล้เสร็จ ดันรายได้ปี”62 โต 5-6%

ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบาฟส์ ผู้ให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันบาฟส์ได้ให้บริการกับสายการบินกว่า 800 เที่ยวบิน/วัน ในท่าอากาศยาน 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง สมุย ตราด และสุโขทัย และมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการพลังงานชั้นนำระดับภูมิภาค เช่นที่ได้ทำมาตลอด 36 ปี

ปัจจุบันในเครือบาฟส์กรุ๊ปมี 6 บริษัท ที่ดำเนินการขนส่งน้ำมันทางท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดิน (FPT), บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อแบบ hydrant, ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ที่ท่าอากาศยานสมุย ตราด และสุโขทัย, ธุรกิจหลักเกี่ยวกับการศึกษาวิเคราะห์ วิจัย พัฒนา ปรับปรุง ออกแบบ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงการให้สิทธิและให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี, ธุรกิจออกแบบ ผลิต ประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานและอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้นอากาศยาน และธุรกิจประกอบสถานีบริการน้ำมันบริเวณด้านหน้าคลังน้ำมันพิจิตร คลังน้ำมันนครลำปาง และสถานีเพิ่มแรงดันที่กำแพงเพชร

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เตรียมเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายธุรกิจบริการเชื้อเพลิงน้ำมันไปยังสนามบินที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ เช่น การเข้าร่วมประมูลโครงการระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือ และสนามบินนานาชาติในเอเชีย รวมถึงลงทุนคลังเก็บน้ำมันหมายเลข 6 ในสนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการขนส่งน้ำมันทางท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินที่ จ.ลำปาง ธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อปรับสัดส่วนรายได้ธุรกิจหลักจาก 80% เป็น 60% และธุรกิจอื่น ๆ จาก 20% เป็น 40% ภายในอีก 5 ปี

“แผนปีถัด ๆ ไปเตรียมขยายไลน์ ผลิตรถเติมน้ำมัน และรถพลังงานไฟฟ้าที่ให้บริการในสนามบิน ลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายอีก 10-15 ปี ที่จะให้สัดส่วนธุรกิจหลัก (core) และ noncore อย่างธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล เป็น 50 : 50 ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ รายได้จะโต 5-6% โดย 9 เดือนแรกมีรายได้ค่าบริการ 2,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% โดยมีปริมาณน้ำมันอากาศยาน 4,562 ล้านลิตร โตขึ้น 2.4% มีกำไรสุทธิ 780 ล้านบาท ลดลง 10.3%”