รมว.พาณิชย์ เผยสหรัฐ ชื่นชมผลงานคุ้มครอง-ป้องปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย

รมว.พาณิชย์ เผยสหรัฐ ประกาศเปิดทบทวนการจัดอันดับไทยตามมาตรา 301 พิเศษ นอกรอบ (OCR) พร้อมชื่นชมผลงานด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการพบหารือกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative: USTR) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 ว่า สหรัฐฯ ชื่นชมที่ไทยให้ความสำคัญด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนและมีการดำเนินการอย่างจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม และได้ประกาศเปิดทบทวนสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยนอกรอบการทบทวนปกติ (Out-of-Cycle Review: OCR) เพื่อปรับสถานะไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (Priority Watch List: PWL) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) หลังจากที่จัดให้ไทยอยู่ในบัญชี PWL มาแล้ว 11 ปี (ตั้งแต่ปี 2550)

สำหรับการหารือกับ USTR ในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เน้นย้ำถึงความคืบหน้าการดำเนินการของไทยในหลายเรื่อง ได้แก่ กรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศอย่างเข้มงวด ทำให้ศูนย์การค้าและย่านการค้าสำคัญ เช่น ศูนย์การค้ามาบุญครอง และตลาดโรงเกลือ ปลอดจากสินค้าละเมิด การเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ การแก้ไขปัญหางานค้างสะสมการจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า การปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ และการแก้ไขข้อกังวลของสหรัฐฯ ที่เน้นถึงความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่ง USTR ได้แสดงความพอใจ

​สำนักงาน USTR จะเปิดรับความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ตามขั้นตอนการทบทวนนอกรอบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดทำความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อสำนักงาน USTR ด้วย จากนั้นคาดว่า สำนักงาน USTR จะประกาศผลการพิจารณานอกรอบในครั้งนี้ภายในปลายปีนี้

นางอภิรดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากการทบทวนสถานะในครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายโดยสหรัฐฯ ถอดไทยออกจากบัญชี PWL จะส่งผลให้ภาพลักษณ์และบรรยากาศด้านการค้าการลงทุนของไทยในสายตาของต่างประเทศดีขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่อาศัยทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการบันเทิง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ของประเทศได้อย่างยั่งยืน

​​ทั้งนี้ นางอภิรดีฯ ได้ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ที่เป็นกำลังสำคัญในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมสนับสนุนให้การดำเนินการในเรื่องนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยการไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงและเศรษฐกิจของประเทศด้วย