ช่วยผู้มีรายได้น้อย ผลกระทบราคาก๊าซหุงต้ม “ร้านหนูณิชย์” ขายอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัด

ภาพจาก http://noonid.dit.go.th

รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม พร้อมสร้างทางเลือก “ร้านหนูณิชย์” จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัด

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงพลังงาน ประกาศนโยบายลอยตัวราคาก๊าซLPG ตามราคาตลาดโลกตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ปรากฏว่าในเดือนกันยายน ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกเพิ่มขึ้นตันละ 50 USD มีผลทำให้ราคาก๊าซ LPG ในประเทศปรับเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 1.43 บาท ซึ่งกองทุนน้ำมันได้ช่วยรับภาระเงินชดเชย ให้กิโลกรัมละ 81 สตางค์ เพื่อให้ผู้บริโภครับภาระเพียงกก.ละ 67 สตางค์ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นจาก ก.ก.ละ 20.49 บาท เป็น ก.ก.ละ 21.15 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2560 กรมการค้าภายในได้วิเคราะห์ผลกระทบจากการปรับราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้น กิโลกรัมละ 67 สตางค์ หรือถังขนาด 15 กก. เพิ่มถังละ 10 บาทแล้ว พบว่าส่งผลให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มขึ้นประมาณ จาน/ชามละ 3 สตางค์ เท่านั้น จึงไม่เป็นเหตุผลที่จะปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและผู้ค้า หาบเร่ แผงลอย โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.43 ล้านคน ได้รับวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาท/คน/3 เดือน และร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ที่ขึ้นทะเบียนไว้ กระทรวงพลังงานยังให้ซื้อก๊าซ LPG ได้ในราคาเดิมที่กก.ละ 18.13บาท โดยได้รับสิทธิ์ 150 กิโลกรัม/เดือน

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้ดำเนินการจัดหาร้านอาหารราคาประหยัดเป็นทางเลือก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนภายใต้ โครงการ “ร้านอาหารหนูณิชย์” ซึ่งมีหลักเกณฑ์ “อร่อย สะอาด ประหยัด” จำหน่ายอาหารในราคาไม่เกินจานละ 35 บาท โดยปัจจุบันมีจำนวนถึง 12,665 ร้านทั่วประเทศ และมี 495 ร้าน ได้รับคัดสรรเป็นร้าน “หนูณิชย์ติดดาว” ที่รับรองคุณภาพและความอร่อยอีกด้วย ทั้งนี้ประชาชนสามารถค้นหาร้านอาหารหนูณิชย์ได้โดยสะดวก เพียงดาวน์โหลด Application “หนูณิชย์” ได้ฟรี ทั้งระบบ Android และ IOS เครื่องจะหาร้านหนูณิชย์ที่อยู่ใกล้ท่านให้ทันที

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องปราบไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่าย ก๊าซหุงต้มในราคาสูงเกินสมควร กรมการค้าภายใน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบร้านจำหน่ายก๊าซเป็นประจำทุกวันๆ ละ 10 สายตรวจ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต สำหรับในต่างจังหวัดได้ประสานให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่ง ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบด้วยเช่นกัน กรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาหรือจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าราคาที่แสดงไว้จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าวสามารถร้องเรียนมาที่กรมการค้าภายในผ่านสายด่วน 1569