กระแสดิสรัปชั่นได้ลุกลามไปทั่วโลก หลายธุรกิจกลับพลิกเป็นโอกาสสร้างการเติบโตเช่นเดียวกับ “บี.กริม กรุ๊ป” ธุรกิจเยอรมันในไทยอายุ 141 ปีที่แสวงหาโอกาสใหม่จนครองมาร์เก็ตแคป 50,000 ล้านบาท “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “ดร.หรัณ เลขนะสมิทธ์” หรือที่หลายคนคุ้นชื่อ “ฮาราลด์ ลิงค์” ประธาน บี.กริม กรุ๊ป
ดิสรัปชั่นแบบ บี.กริม
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
disruption เป็นคำที่ไม่ค่อยดี หมายความว่า คุณทำร้ายคนอื่น แต่ผมมองว่า บางครั้งก็ต้องทำ ไม่ใช่การตั้งใจทำร้าย แต่เป็นการทำใหม่ แต่การผลิตสมัยใหม่ ไม่ได้คิดจะ disrupt แต่คิดว่า จะสร้างประโยชน์ได้อย่างไร ยกตัวอย่าง บี.กริมอยู่ตอนต้นของ disruption หรือ blue ocean ตั้งแต่เกิด เราขายยา ซึ่งเวลานั้นไทยมีแต่ยาสมุนไพร ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพได้ บี.กริมนำยาสมัยใหม่มาปลูกที่นี่ ไม่ใช่เพื่อทำร้ายยาสมุนไพร แต่ต้องการรักษาโรคหรือการวางระบบโทรเลขไม่ใช่ทำร้ายไปรษณีย์ แต่ช่วยให้เกิดการสื่อสารที่รวดเร็ว
ธุรกิจทั่วโลกพูดถึงคำว่า “smart” อะไรที่ทันสมัยจะใช้คำนี้ หมายความว่า จะใช้เทคโนโลยี ITC อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ทำให้ธุรกิจไปในแนวทางที่ดีกว่า KPMG เลือกเราเป็น 1 ใน 100 บริษัทด้านฟินเทคที่น่าสนใจที่สุดในโลก เราพยายามทำ digital transformation จึงเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างเยอะในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของไทย ระบบสาธารณสุข และอุตสาหกรรม วันนี้เราอาจเป็นบริษัทเดียวที่สมาร์ทด้านไฟฟ้า ทำระบบไฟฟ้ารับลูกค้ากว่า 150 รายที่นิคมอมตะ ชลบุรี บางกะดี แหลมฉบัง มาบตาพุด และขยายไปต่างประเทศ
ขำแหละพอร์ตธุรกิจ
ปัจจุบันนี้อาจเรียกได้ว่า บี.กริมก้าวสู่การผลิตพลังงาน เป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ แต่จริง ๆ แล้วธุรกิจของเรามีความหลากหลาย แต่ละช่วงเวลาแต่ละธุรกิจเติบโตไม่เท่ากัน เช่น ช่วงที่ขายระบบสาธารณูปโภคให้โครงการ BTS-รถไฟฟ้าใต้ดิน-แอร์พอร์ตลิงก์ ก็มีคนมองว่า เราเน้นเรื่องนั้นหรือเมื่อเราขายระบบโทรคมนาคมให้องค์การโทรศัพท์ฯ-ซีพี เทเลคอม-เอไอเอส คนก็มองว่า บี.กริมเป็นธุรกิจสื่อสาร ใครมาติดต่อซื้อยาและเครื่องมือแพทย์ เราก็จะกลายเป็นธุรกิจสาธารณสุข เรายังมีธุรกิจเครื่องปรับอากาศ (carrier) โตได้ดี เครื่องใช้ไฟฟ้า กระจกติดตั้งภายนอกอาคาร และอสังหาริมทรัพย์ แม้จะมีธุรกิจไฟฟ้าเป็นธุรกิจหลัก แต่ยังรักษาธุรกิจดั้งเดิม รวมถึงสายการเดินเรือด้วย
24ปีที่แล้วลุยลงทุนโรงไฟฟ้า
30 ปีก่อน ผมคิดว่า business model ต้องเปลี่ยน เวลานั้น บี.กริมเป็นตัวแทนของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก แต่เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ความเป็นตัวแทนไม่ยั่งยืน เราทำ 2 อย่างคือ ติดต่อบริษัทที่เป็นตัวแทนเพื่อขอร่วมทุน ซึ่งก็สำเร็จหลายบริษัท เมื่อนึกถึงธุรกิจดั้งเดิม 1 ในนั้นคือ ไฟฟ้า เดินเรือ อสังหาริมทรัพย์ เราพัฒนาของเรามา ไฟฟ้าเริ่มเมื่อ 24 ปีที่แล้วกับอมตะ รัฐบาลเปิดให้เอกชนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อใช้ในนิคมอุตสาหกรรม เราจึงอยู่ในธุรกิจไฟฟ้าตั้งแต่ต้นศตวรรษที่แล้ว จากนั้นพลังงานหมุนเวียนเริ่มได้รับความนิยมจึงลงทุนบ้าง ปัจจุบันลงทุนธุรกิจไฟฟ้าใน 8-9 ประเทศ ในไทยโดยเฉพาะแสงอาทิตย์-ลม สปป.ลาวทำพลังงานน้ำ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนามทำแสงอาทิตย์ มาเลเซียกำลังคุยร่วมทุน เกาหลีทำโรงไฟฟ้าพลังลม เยอรมนีและกรีซ กำลังดูที่เมียนมา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ธุรกิจไฟฟ้ากำลังจะเปลี่ยน
30 ปีก่อนกับปัจจุบันแตกต่างกัน จากการพัฒนาอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลง โรงไฟฟ้าเราใช้เทคโนโลยีสูงสุดและใช้ระบบดิจิทัลมากที่สุดในการบำรุงรักษาออกแบบและปฏิบัติการ ระบบสารสนเทศต้องการระบบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูง แต่ในอนาคตความต้องการใช้ไฟจะมากขึ้น เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เรามุ่งแสวงหาโอกาส เวียดนามต้องการใช้ไฟมากขึ้น อยากทำพลังงานน้ำก็มีคนในลาวมาชวน เขมรก็อยากให้หุ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยมากคือ โซลาร์รูฟท็อป
ดึงมืออาชีพระดับโลกร่วมทีม
โอกาสการลงทุนมีทั่วไป ขึ้นกับว่าจะเลือกประเภทไหน มีคนทำไหม ล่าสุดเพิ่งตั้ง “องค์กรใหม่” มีบอร์ดด้านพลังงานและธุรกิจอื่นได้ 3 คนเก่งระดับโลกมาร่วมทีม คนแรก Mr.Fabrice Goetchmann ตำแหน่ง President B. Grimm Industrial Businesses ในอดีตดูแลธุรกิจอุตสาหกรรม SIEMENS ทั่วโลก คนที่ 2 เป็น Prof.Dr.Ing. Klaus Wucherer, Dr.Hermann Requardt, Ph.D., จาก SIEMENS มารับตำแหน่ง Executive Board เป็นอดีต CEO เครื่องมือแพทย์บริษัทลูก SIEMENS สุดท้าย Prof.Dr.Ingo Beyer von Jutrzenka-Morgenstern ตำแหน่ง Executive Board จาก McKinsey ปรึกษาด้านการจัดการที่เคยดูแลเอเชีย ทั้ง 3 คนจะมาร่วมงานกับผมและลูกสาว (Caroline) ซึ่งดูธุรกิจสาธารณสุขและอุตสาหกรรม ผมดูแลธุรกิจเดินเรือ ไลฟ์สไตล์ และอสังหาริมทรัพย์
แผนการลงทุนในปี 2563
มีแผนลงทุนครบทุกด้าน เช่น โรงไฟฟ้าทั้งที่ต้องสร้างขึ้น ที่ซื้อเข้ามาและสัมปทาน ด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเคมีภัณฑ์และรีไซเคิล เพราะมีโอกาสเติบโตในอนาคต ด้านสาธารณสุข มี 3 โครงการคือ สร้างคลินิก เรื่องยา และจะลงทุนในบริษัทใหม่ หลังมีบอร์ดใหม่ตั้งเป้าใหญ่ไว้ว่า ถ้า บี.กริมครบรอบ 150 ปีต้องมียอดขายเพิ่มเป็น 150,000 ล้านบาทหรือกว่า 3 เท่าใน 9 ปี ประมาณการว่าปีนี้ บี.กริมโตจาก 50,000 ล้านเป็น 60,000 ล้านบาท หรือโตกว่า 20% จากพลังงาน 75% หรือ 44,000 ล้านบาท, อุตสาหกรรม 16% ราว 9,600 ล้านบาท ธุรกิจสุขภาพ 8% ราว 5,000 ล้านบาท และอื่น ๆ 600 ล้านบาท เรามองหาโอกาสทางธุรกิจเสมอ
เคล็ดลับความสำเร็จ บี.กริม
เหตุผลที่เราไปได้ดีก็เพราะตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย และทำธุรกิจด้วยความรัก การช่วยเหลือกัน ส่วนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเข้มงวดหรือให้เงินเยอะเป็น 2 วิธีที่เราไม่ชอบ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ดี หากพูดถึงความสำเร็จอาจเรียกได้ว่าเป็นบริษัทของประเทศนั้น การมีเทคโนโลยีที่ดี มีผลงานที่ดี ที่สำคัญต้องดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี มีค่านิยมมองโลกในแง่ดี เป็นมืออาชีพเป็นพันธมิตรที่ดีต้องคิดอะไรใหม่ตามกลยุทธ์ 4P ถ้าคนคิดว่าคุณเป็นมิตรที่ดี มีอะไรเกิดขึ้นเขาจะไปด้วย โตด้วยกัน บี.กริมอยู่ในประเทศไหนต้องทำแบบนั้น