เทรดวอร์ทุบค้าชายแดนดิ่ง ชง “จุรินทร์” แก้เกมรุกกิจกรรม 4 เมืองรอง

“จุรินทร์” เตรียมถกคณะกรรมการค้าชายแดน ก.พ. 63 ชูไอเดียจัดกิจกรรมเมืองรอง 4 จังหวัด “ประจวบฯ ระนอง อุตรดิตถ์ แพร่” ดันยอดค้าชายแดนปี”63 ทะลุ 1.8 ล้านล้านบาท หลังพิษเศรษฐกิจโลก-ค่าเงินบาททุบยอดปี”62 หวืดเป้า 4 แสนล้าน

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนฯ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) เป็นประธาน มีกำหนดจะประชุมนัดแรกของปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน รวมถึงกำหนดแผนผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดน พิจารณากำหนดเป้าหมายการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2563

โดยปี 2562 สถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อประเทศคู่ค้าปรับตัวลดลง และอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าส่งผลให้ยอดการค้าชายแดนไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.6 ล้านล้านบาท โดยล่าสุด 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.)

ปี 2562 มีมูลค่าการค้ารวม 1,231,862 ล้านบาท ลดลง 2.97% โดยในส่วนการส่งออกมีมูลค่า 687,404 ล้านบาท ลดลง 2.62% และการนำเข้า 544,459 ล้านบาท ลดลง 3.42% อย่างไรก็ตาม ไทยยังเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ามูลค่า 142,945 ล้านบาท

“แนวโน้มการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในปี 2563 กรมตั้งเป้าหมายว่าจะผลักดันมูลค่าการค้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีนี้ โดยกรมได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนเต็มที โดย

มุ่งเน้นกระตุ้นการค้าชายแดนระหว่างไทยและเพื่อนบ้านด้วยการจัดกิจกรรมตามจังหวัดเมืองรองสำคัญ เช่น อุตรดิตถ์ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และแพร่ อยู่ระหว่างการพิจารณาจังหวัดอื่นที่มีโอกาสเป็นไปได้ ซึ่งแม้ว่าจะยังคงต้องจับตาผลกระทบต่อจากปัจจัยเดิม ทั้งสงครามการค้า ค่าบาท แต่ก็คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าค้าชายแดนและผ่านแดนให้โตได้ตามเป้าหมาย”

ส่วนกิจกรรมหลักที่กรมเตรียมไว้สำหรับส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปี 2563 จะมีการจัดกิจกรรมประมาณ 6 ครั้ง เริ่มจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จัดที่จังหวัดนราธิวาส เดือนมีนาคม 2563 จัดที่จังหวัดสระแก้ว เดือนพฤษภาคม 2563 จัดที่จังหวัดตาก เดือนมิถุนายน 2563 จัดที่จังหวัดนครพนม และยะลา เดือนกรกฎาคม 2563 จัดที่จังหวัดเชียงราย และภายในงานนอกจากการจัดแสดงสินค้าแล้ว ยังเปิดให้มีการเจรจาธุรกิจด้วย

นอกจากการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนแล้ว กรมยังได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางลดปัญหาและอุปสรรคต่อการค้าชายแดนและผ่านแดน โดยในต้นปี 2563 จะประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าไทย-กัมพูชา จากที่ในปีนี้กรมได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมุกดาหาร เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว และจังหวัดสงขลา เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย

สำหรับยอดการค้าชายแดน 11 เดือนแรกที่มีมูลค่าการค้า 1,231,862 ล้านบาท ลดลง 2.97% นั้น แบ่งเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 985,114 ล้านบาท ลดลง 4.03% เป็นการส่งออก 560,078 ล้านบาท ลดลง 5.46% นำเข้า 425,036 ล้านบาท ลดลง 2.07% เกินดุลการค้า 135,042 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 246,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.47% เป็นการส่งออก 127,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.22% นำเข้า 119,422 ล้านบาท ลดลง 7.93% เกินดุลการค้า 7,903 ล้านบาท

ทั้งนี้ การค้าชายแดนมาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 476,153 ล้านบาท ลดลง 8.76% ไทยส่งออก 231,743 ล้านบาท ลดลง 13.06% นำเข้า 244,409 ล้านบาท ลดลง 4.26% ไทยขาดดุลการค้า 12,666 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีการส่งออกมากที่สุด คือ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์ยาง และนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เทปแม่เหล็ก และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 181,808 ล้านบาท ไทยส่งออก 107,651 ล้านบาท ลดลง 9.08% นำเข้า 74,157 ล้านบาท ลดลง 4.17% ไทยได้ดุลการค้า 33,494 ล้านบาท

เมียนมา มูลค่า 180,737 ล้านบาท ไทยส่งออก 93,778 ล้านบาท ลดลง 2.88% นำเข้า 86,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.32% ไทยได้ดุลการค้า 6,819 ล้านบาท และกัมพูชา มูลค่า 146,416 ล้านบาท ไทยส่งออก 126,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.43% นำเข้า 19,511 ล้านบาท ลดลง 7.33 % ไทยได้ดุลการค้า 107,394 ล้านบาท

ขณะที่การค้าผ่านแดนจีนตอนใต้มีมูลค่าสูงสุด 118,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.31% ไทยการส่งออก 49,708 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.19% นำเข้า 68,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.64% ไทยขาดดุลการค้า 19,166 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกมากที่สุด คือ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องคอมพิวเตอร์ และลำไยแห้ง ส่วนสินค้านำเข้า คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ เทปแม่เหล็กฯ และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น รองลงมาคือ สิงคโปร์ มูลค่า 67,665 ล้านบาท ไทยส่งออก 28,494 ล้านบาท ลดลง 6.74% นำเข้า 39,171 ล้านบาท ลดลง15.57% ไทยขาดดุลการค้า 10,677 ล้านบาท และเวียดนาม มูลค่า 60,501 ล้านบาท ไทยส่งออก 49,124 ล้านบาท ลดลง 5.99% นำเข้า 11,377 ล้านบาท ลดลง 41.13% ไทยได้ดุลการค้า 37,746 ล้านบาท