เศรษฐกิจแผ่ว ดีมานด์น้ำมันปี”63 ขยับ 2%

ในช่วงปีที่ผ่านมา สถานการณ์เชื้อเพลิงค่อนข้างเปราะบาง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไม่นานเหตุการณ์ตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกขยับขึ้นมาที่ระดับ 70 จากที่เคยนิ่ง 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ความผันผวนดังกล่าวถือเป็นความท้าทายกรมธุรกิจพลังงาน เชื่อมโยงกับภาพรวมเศรษฐกิจและค่าครองชีพประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ

ปี”63 ดีมานด์เชื้อเพลิงเพิ่ม 2%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ฉายภาพให้เห็นถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อวันของคนไทย ปี 2562 เทียบกับปี 2561 ที่เติบโตขึ้น โดยในกลุ่มน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.7% เฉลี่ยอยู่ที่ 32.2 ล้านลิตร/วัน จากกลุ่มแก๊สโซฮอล์ แบ่งเป็นแก๊สโซฮอล์อี 20 เพิ่มขึ้นมากที่สุด 12.1% อยู่ที่ 6.5 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.98 บาท/ลิตร จึงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์อี 85แก๊สโซฮอล์ 95

ส่วนปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาใกล้เคียงกัน มีส่วนต่างเพียง 27 สตางค์/ลิตร ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า

นอกจากนี้ ปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วยังเพิ่มขึ้น 1.8% เฉลี่ยอยู่ที่ 64.4 ล้านลิตร/วัน จากการน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 ที่เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. 2562 อยู่ที่ 1 แสนลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือน ก.ค. 2561 อยู่ที่ 4.5 ล้านลิตร/วัน โดยทั้งการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 และบี 20 ภาครัฐได้ใช้มาตรการกำหนด

ส่วนต่างอุดหนุนราคาขายปลีกถูกกว่าดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี 7) ทำให้การใช้บี 7 ลดลง โดยปัจจุบันใช้เงินอุดหนุนกองทุนน้ำมันฯ นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2561-ธ.ค. 2562 จำนวน 6,200 ล้านบาทและจะขยายโดยไม่จำกัด

ส่วนคาดการณ์ปีนี้ 2563 ความต้องการใช้น้ำมันทั้งประเทศเติบโต 2% จากปี 2562 อยู่ที่ 1.8% กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 33.3 ล้านลิตร/วัน จากปี 2562 อยู่ที่ 32.2 ล้านลิตร/วัน กลุ่มดีเซลหมุนเร็วเพิ่มอยู่ที่ 71.6 ล้านลิตร/วัน จากปี 2562 อยู่ที่ 64.4 ล้านลิตร/วัน

จากสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบไม่เกิน 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปี 2562ที่เฉลี่ย 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองว่าสถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐเริ่มคลี่คลาย และบาห์เรนเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึง ปตท.ได้กระจายซื้อวัตถุดิบจากหลายแห่งมากขึ้น ดังนั้น ภาพรวมปีนี้น่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคา

LPG-LNG ลดทั้งคู่

ขณะเดียวกัน ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) กลับลดลง 0.2% ปริมาณการใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.8 ล้าน กก./วัน ส่วนการใช้แอลพีจีในภาคปิโตรเคมีมีความต้องการเพิ่มขึ้น 7.9% อยู่ที่ 7.4 ล้าน กก./วัน เนื่องจากมีการใช้เตาไฟฟ้ามากขึ้น สำหรับการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ลดลง 11.7% เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.4 ล้าน กก./วัน

เนื่องจากการปรับราคาเอ็นจีวีสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ส่งผลให้สถานีบริการเอ็นจีวีนอกแนวท่อทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกันอยู่ที่ 451 แห่งในปี 2562 จากปี 2561 อยู่ที่ 446 แห่ง ซึ่งผู้ประกอบการเอ็นจีวีหลายรายได้ปรับลดหัวจ่ายมาทำบี 20 แทน

3 บ.นำร่องลุยลดฝุ่น PM 2.5

อย่างไรก็ดี กรมเดินหน้าสนับสนุนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ต่อเนื่องปัจจุบันมีบริษัทที่เริ่มปรับคุณภาพโรงกลั่นตามมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 ได้แก่ 2 บริษัทเครือ ปตท. บ.ไทยออยล์ บ.พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี และ บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเริ่มเห็นการเพิ่มสัดส่วนการใช้งานไบโอดีเซล โดยร่วมมือกับค่ายรถยนต์ทั้งโตโยต้าและอีซูซุ นอกจากจะมีราคาที่ประหยัดกว่าน้ำมันดีเซลปกติ หรือน้ำมันดีเซล B7 ถึงลิตรละ 5 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ที่สำคัญคือลดฝุ่น PM 2.5 อีกด้วยแต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการผลิตบี 10จากโรงกลั่นน้ำมัน 6 โรง รวมที่เริ่มจำนวน 3 โรงดังกล่าวนั้นต้องใช้เวลากำหนดเป็นมาตรฐานบังคับในอีก 3 ปีข้างหน้า 2567 และต้องใช้เงินลงทุนถึง5 หมื่นล้านบาท

“บี 10 สามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนได้ 3.5-13.5% และบี 20 ช่วยลดฝุ่นละอองได้ 20-25% และเดือน ก.พ.-มี.ค. 2563 มีแผนส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ชัดเจน กระทรวงพลังงานมีแผนใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานต่อเนื่อง เพื่อผลักดันราคาผลผลิตปาล์มสดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า กก.ละ 4 บาท ให้ได้ภายในปีนี้ จะช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ และยังมั่นใจผลผลิตปาล์มสดยังมีเพียงพอแม้จะแล้ง”

ปัจจุบันสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) 3.34 แสนตัน สกัดเป็นบี 100 อยู่ที่ 120 ล้านลิตร และเดือน ก.พ.นี้จะมีผลผลิตใหม่ เพิ่มขึ้น 57 ล้านลิตร คิดเป็นปริมาณความต้องการใช้ปาล์ม สัดส่วน 2 ใน 3 หรือ 2-2.2 ล้านตันของปริมาณผลผลิตทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายว่า ไตรมาส 1/2563 จะมีสถานีบริการ B10 เพิ่มเป็น 7,000 แห่งจากปัจจุบัน 800 แห่ง ความต้องการใช้ B10 เพิ่มจาก 1.3-1.5 เป็น 22.5 ล้านลิตร/วัน ทั้งปี 2563 ปริมาณ 57 ล้านลิตร/วัน ส่วน B7 เหลือ 5 ล้านลิตร/วัน