“สนธิรัตน์” นำทีมตรวจเข้มร้านค้า จ.นนทบุรี ยันไม่พบการกักตุน-ปฏิเสธจำหน่ายเหล้า บุหรี่

“สนธิรัตน์” นำทีมตรวจเข้มร้านค้า จ.นนทบุรี ยันไม่พบการกักตุน-ปฏิเสธจำหน่ายเหล้า บุหรี่ เผยหลังขึ้นภาษีสรรพสามิต 1 วัน มียอดร้องเรียนสายด่วน 1569 เพียง 5 สาย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายเหล้าและบุหรี่ ที่ร้าน จ.เสริมทรัพย์ และร้านอึ้งอี้เส็ง จ.นนทบุรี หลังจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดอัตราโครงสร้างภาษีเหล้า ยาสูบ หรือบุหรี่ และไพ่ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. 2560 โดยผลการตรวจยังไมพบพฤติกรรมกักตุน และปฏิเสธการจำหน่าย

โดยขณะนี้มีการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ในเรื่องของเหล้าและบุหรี่ ในวันที่ 12 กันยายน 2560 จำนวน 5 ราย และวันที่ 13 กันยายน 2560 จำนวน 11 ราย (ส่วนใหญ่เป็นบุหรี่) โดยเป็นการแจ้งว่ามีการกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายหรือไม่สามารถหาซื้อบุหรี่หรือเหล้าได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำว่าหากจะร้องเรียนผ่านกรมฯ กรมฯก็จะส่งเรื่องให้กรมสรรพสามิตดำเนินการต่อไป แต่หากจะร้องเรียนโดยตรงกับกรมสรรพสามิต สามารถใช้หมายเลขสายด่วนกรมสรรพสามิต หมายเลข 1713 ซึ่งจะเป็นการร้องเรียนโดยตรงและได้รับการแก้ไขรวดเร็วกว่าซึ่งผู้ที่โทรมาดังกล่าวก็ประสงค์จะติดต่อกับกรมสรรพสามิตโดยตรง จึงยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเหล้า บุหรี่ผ่านกรมการค้าภายใน ในช่วงนี้

​ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดอัตราโครงสร้างภาษี 3 สินค้า คือ เหล้า ยาสูบ หรือ บุหรี่ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. 2560 ประกอบด้วย

1.ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 45 พ.ศ. 2560 เรื่อง การแสดงราคาสินค้าและค่าบริการ กำหนดให้บุหรี่ซิกาแรต ยาสูบ เป็นสินค้าที่ต้องมีการแสดงราคาจำหน่ายปลีกในรายการลำดับที่ 226 และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นสินค้าที่ต้องแสดงราคาในลำดับที่ 11

​ทั้งนี้หากมีการจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าราคาที่แสดงไว้จะเป็นความผิดในฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางฯดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

2.พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการใดๆโดยจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดการปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใดซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรานี้จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3.กรณีของสินค้าเหล้าและบุหรี่กรมสรรพสามิตเป็นผู้ดูแล เมื่อมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตจึงส่งผลให้ราคาขายปลีกเปลี่ยนไปจากเดิม คือปรับขึ้นหรือลง ซึ่งกรมสรรพสามิตจะเป็นผู้ตรวจสอบสถานการณ์จำหน่าย สถานการณ์ราคารวมถึงการกักตุนหรือการปฏิเสธการขายของร้านค้า ​เนื่องจากเหล้าและบุหรี่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรมการค้าภายในจึงไม่อาจมีการตรวจสอบดำเนินคดีในกรณีที่มีการกักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้ (มาตรา 30)

4.กรณีที่ประชาชนร้องเรียนมาที่กรมการค้าภายในผ่านสายด่วน 1569 หรือช่องทางอื่นๆ กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในเรื่องของการแสดงราคาจำหน่ายปลีกซึ่งเมื่อพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีทันทีหรือหากมีการจำหน่ายในราคาที่สูงมากผิดปกติโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรก็อาจมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ ดังกล่าวได้