งานแฟร์ไทยไม่กลัวไวรัสอู่ฮั่น ประเดิม “บางกอกเจมส์” ปาดหน้าฮ่องกง

ไม่หวั่นโคโรน่า เรียกประชุม “ทูตพาณิชย์” พร้อมขนผู้นำเข้าลุยแฟร์ในไทย ครึ่งปีแรก 3 งานไม่เลิกแน่ “บางกอกเจมส์ฯ” ประเดิมงานแรก เอกชนมั่นใจไทยรับมือได้ เตรียมถอนตัวจากแฟร์เจมส์ฮ่องกงหนีหาสหรัฐ-ไทยเฟกซ์ ระทึกอีก 5 เดือน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าจะขยายวงกว้างส่งผลกระทบต่อแผนจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศในช่วงครึ่งปีแรก เช่น งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 65 (บางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์) ซึ่งจัดระหว่าง 25-29 ก.พ. 2563 การประชุมมอบนโยบายทูตพาณิชย์จาก 58 แห่งทั่วโลก ในวันงาน การจัดงานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งปี 2563 (TAPA 2020) ในระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2563 และงานแสดงสินค้าอาหารโลก หรือ THAIFEX-ANUGA ASIA ระหว่าง 26-30 พฤษภาคม 2563 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจะไม่มีผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกตามแผนของกรม โดยขณะนี้ยังคงดำเนินกิจกรรมอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้ขยายตัวตามเป้าหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทั่วโลก ทางกรมเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมมาตรการการป้องกันโรคและตรวจสอบผู้เข้า-ออกงานอย่างเข้มงวด

ส่วนกิจกรรมการส่งเสริมการค้าในประเทศจีนอยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์ โดยได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) จีน 7 แห่ง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนและเตรียมการรองรับ เบื้องต้นเชื่อว่าจีนสามารถควบคุมได้ สำหรับกิจกรรมงานแสดงสินค้าในจีนมีกำหนดว่าในช่วงต้นเดือนเมษายน 2563 จะมีงาน Fruit Festival ที่หนานหนิง มณฑลกว่างซี ซึ่งอยู่ห่างจากมณฑลหูเป่ย์ประมาณ 1,200 กม.

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังทูตพาณิชย์ที่จะนำเข้าร่วมงานบางกอกเจมส์ฯ นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำนครลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้นำเข้ารายใดขอยกเลิกเข้าร่วมงานจากปัญหานี้ ซึ่งก็มีผู้ติดเชื้อในสหรัฐแต่มองว่าความเสี่ยงนั้นน้อยกว่าซาร์สและเมอร์ส การแพร่เชื้อยังกระจุกตัวในโซนเอเชียมากกว่า คนจีนในสหรัฐค่อนข้างจะตื่นตัวกับประเด็นนี้มากกว่าคนสหรัฐ ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนหน้ากากปิดจมูกทั้งช่องทางจำหน่ายในร้านขายยาและออนไลน์ ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ในช่วงสั้น

ขณะที่นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ กล่าวว่า จะนำคณะผู้นำเข้าจากยูเออีและบาห์เรนประมาณ 20 รายเข้าร่วมแฟร์ ซึ่งหนึ่งในนี้มีกลุ่ม Dubai Gold and Jewellery Group (DGJG) ผู้นำเข้ารายใหญ่สัดส่วน 70% ของผู้ค้าในดูไบ ระหว่างนี้เราได้จัดงานบางกอกเจมส์ กาล่าไนซ์ขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้าร่วม 100 ราย เพื่อกระตุ้นให้ตัดสินใจเข้าร่วมงาน โดยจะมีเอกอัครราชทูตไทยประจำยูเออีมาร่วมให้ข้อมูลสร้างความมั่นใจว่าไทยสามารถดูแลควบคุมการแพร่ระบาดได้

ขณะที่นางสาวสายทอง สร้อยเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้นำเข้าอินเดียรายใดยกเลิกหรือแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โดยทางสำนักงานมีแผนจะนำคณะผู้นำเข้า 18 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์ฯ และยังมีผู้ประกอบการอินเดีย 3 รายที่เข้าร่วมแสดงในงาน เช่นCasa De Plata, Navrattan Enterprisesและ Agra Products เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่คณะที่ร่วมเดินทางจะเป็นรายเดิมที่เคยเดินทางไปร่วมงานในครั้งที่ผ่านมาไม่กังวลกับปัญหาโรค อีกทั้งที่ผ่านมาทางสำนักงาน และทางสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ในอินเดียได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ความมั่นใจถึง

การเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ของประเทศไทยสอดรับกับนายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับยังดำเนินไปปกติ และยังไม่มีผู้ขอยกเลิกการเข้าร่วมงาน ทางเอกชนยังมีความมั่นใจในมาตรการตรวจสอบและการรับมือของกระทรวงสาธารณสุข

ในปีนี้งานในประเทศไทยจัดขึ้นก่อนงานแฟร์อัญมณีที่ฮ่องกงที่จะมีในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ซึ่งมองว่าจะมีนักธุรกิจบางกลุ่มเปลี่ยนแปลงเป้าหมายการเดินทางมาร่วมงานบางกอกเจมส์ฯมากขึ้น ดังนั้น ภาครัฐควรส่งสัญญาณเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่จะมาร่วมงาน หากเดินทางมาจะมีความปลอดภัยแน่นอน 100%

“รัฐควรอาศัยจังหวะนี้ในการแก้ไขวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างความมั่นใจว่าไทยเป็นกรีนซิตี้ หรือมีความปลอดภัยมาก หรือมีการวิจัยและพัฒนายาเพื่อรักษาหากเข้ามามั่นใจได้ว่าปลอดภัย”

ส่วนแผนการเข้าร่วมงานแฟร์อัญมณีในฮ่องกงนั้น ทางผู้ส่งออกหลายรายรวมถึงบิวตี้เจมส์ได้พิจารณาระงับแผนการเดินทางไว้แล้ว และจะปรับเปลี่ยนไปร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ JCK ที่จัดขึ้นที่ลาสเวกัสช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้แทน

“ปีที่ผ่านมาการส่งออกกลุ่มอัญมณีขยายตัวขึ้นจากกลุ่มทองคำที่ไม่แปรรูป ส่วนปีนี้เพื่อให้การส่งออกขยายตัวเอกชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขค่าบาท ควรอยู่ในระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หรืออ่อนค่าลงเพียง 10% จะส่งผลดีต่อการส่งออก ขณะที่สถานการณ์ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีมีผลต่อการค้าทอง และต้นทุนการใช้ทองคำในการผลิตเป็นตัวเรือนของอัญมณี ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ส่วนปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 มีผลต่อการท่องเที่ยวซึ่งสินค้าอัญมณีส่วนหนึ่งผลิตขายในประเทศก็กระทบด้วย อยากให้รัฐบาลรณรงค์อย่างเต็มที่เพื่อลดปัญหา ล่าสุดไวรัสโคโรน่าถือเป็นเรื่องที่กระทบต่อเนื่องมา แต่อีกด้านเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นก็มีผลด้วย ปีนี้เอกชนต้องปรับตัวมากทั้งการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนางานดีไซน์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเพื่อรักษายอดขาย”

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการจัดงานแสดงสินค้า THAIFEX 2020 ที่หอการค้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จัดงานนั้นยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน ดังนั้นขณะนี้ยังต้องประเมินสถานการณ์ก่อนว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการด้านใดออกมา แต่เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่กระทบแผนการจัดงาน


สำหรับนักธุรกิจที่เข้าร่วมงานนี้ส่วนใหญ่มาจากสหภาพยุโรป สหรัฐ ตะวันออกลาง มีจากจีนไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจในมาตรการดูแลของไทยอย่าเพิ่งตื่นตระหนก