อีคอมเมิร์ซดัน “SCG Packaging” โต 6.1% ทุ่มอีก 7,600 ล้าน ขยายลงทุนปี 2563 ใน 4 ประเทศ

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจแพ็กเกจจิ้งปี 2562 บริษัทมีรายได้ 89,070 ล้านบาท เติบโต 6.1% ในการลงทุนทั้งหมด 5 ประเทศ (ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย) คิดเป็นกำไร 5,268 ล้านบาท โต 17 %

โดยบริษัทมีสินค้า 1.2 แสนแบบ รองรับลูกค้ากว่า 4,000 ราย มีฐานการผลิตและตลาดหลักแบ่งตามสัดส่วนรายได้ในไทย 57% เวียดนาม 12% อินโดนีเซีย 10% ฟิลิปปินส์ 4% และมาเลเซีย 2% รวมยอดขายในต่างประเทศอยู่ที่ 43% ของยอดขายทั้งหมด มีกำลังการผลิตแพ็กเกจจิ้งรวม 4 ล้านตัน กระดาษลูกฟูก 1.1 ล้านตัน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมได้หลากหลาย โดยเฉพาะในซัพพลายเชนของธุรกิจที่มีการเติบโตสูง อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจค้าปลีก เครื่องใช้ไฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ และอีคอมเมิร์ซ

นอกจากนี้ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างมาก ตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน จึงคาดในช่วง 6 ปี (2561-2567) มูลค่ารวมของตลาดจะเติบโตเฉลี่ย 26% ต่อปี หรือมีมูลค่า 72,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับแผนการลงทุนปี 2563 เตรียมขยายกำลังการผลิตธุรกิจเงินลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563 และยังมีการพิจารณาควบรวมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้โมเดลแพ็กเกจจิ้ง โซลูชัน (Packaging Solutions)

ประกอบด้วย ลงทุนโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์อ่อนตัวในประเทศเวียดนาม 600 ล้านบาท ลงทุนเครื่องจักรเครื่องที่ 3 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ 5,200 ล้านบาท และขยายกำลังการผลิตโรงงานกระดาษแห่งที่ 2 ประเทศอินโดนีเซีย กำลังการผลิต 4 แสนตัน ประมาณ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จำนวนประชากรมาก ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นส่งผลต่อกำลังซื้อ