ค้าภายในเร่งติดตั่งมิเตอร์ 450 แทงค์ เพื่อติดตามปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศขณะนี้เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ภายหลังจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศลดลงเหลือ 2.3 แสนตันจากการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบช่วงก่อนหน้านี้เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 และน้ำมันดีเซลบี 20 ซึ่งความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบบี 10 เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้านตันปี รวมถึงการส่งมอบน้ำมันปาล์มให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟฝ.ไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ปริมาณ 1.3 แสนตัน ดังนั้น เพื่อรักษาสมดุลและภาวะน้ำมันปาล์มดิบในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและติดตามได้ จำเป็นจะต้องเร่งในการ ติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม หรือ มิเตอร์ ในแท็งค์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ขณะนี้ กรมฯอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อบริหารจัดการ เร่งติดตั้งแทงค์จำนวน 450 แทงค์ เพื่อติดตามสต้อก และแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ส่วนการขออนุญาตินำเข้าเพื่อข้ามแดนเพื่อส่งต่อยังไปยังอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีการนำออกจริง เรื่องนี้ได้กำหนดให้สามารถนำผ่านได้แค่ด่านเดียว คือ ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) และกำหนดด่านปลายทางสำหรับการนำผ่านน้ำมันปาล์มดิบออกไปยังประเทศที่ 3 แค่ 3 ด่าน คือ ด่านแม่สอด ด่านหนองคาย และด่านจันทบุรี

ส่วนด้านราคาผลปาล์มดิบปัจจุบัน 5.30-6.50 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) อยู่ที่ 37-38 บาท ต่อกิโลกรัม