สตาร์ตอัพญี่ปุ่นผนึกมิตรผล ทุ่ม1,900ล.ตั้งรง.ผลิตผงโปรตีนชีวภาพ

สตาร์ตอัพญี่ปุ่น รับคำเชิญสมคิด เทงบฯ 1,900 ล้านบาท ปักธงลงทุน “โรงงานไบโอเทค” นิคมอีสเทิร์นซีบอร์ด ตั้งไทยฐานการผลิตผงโปรตีนใหญ่ที่สุดในโลก จ่อผนึก “มิตรผล” ป้อนวัตถุดิบน้ำตาล ผลิตวัตถุดิบขายสู่อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม-อุปกรณ์การแพทย์-ชิ้นส่วนยานยนต์

นายยาซูฮิโกะ ยูคิโยชิ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สไปเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสตาร์ตอัพจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่ได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ได้เดินทางเยือนญี่ปุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงานไบโอเทค เพื่อผลิตโปรตีนชีวภาพ หรือผงโปรตีนจากการหมักโดยใช้กากน้ำตาล (โมลาส) ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ด้วยงบประมาณการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งจะถือเป็นโรงงานผลิตผงโปรตีนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จากในปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ผลิตอยู่เพียง 3 ประเทศเท่านั้น คือ บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น สหรัฐ เยอรมนี โดยบริษัทสไปเบอร์มีกำลังการผลิตมากกว่า 2 รายดังกล่าว และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสินค้าด้านนี้อีก 200 สิทธิบัตร ได้ขยายการจดคุ้มครองไปทั่วโลก

“เหตุผลที่ตัดสินใจมาลงทุนเพราะอุตสาหกรรมนี้จะเป็นการผลิตโปรตีนด้วยจุลินทรีย์ที่มาย่อยน้ำตาล ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีการผลิตน้ำตาลเป็นอันดับต้นของโลก ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิต ขณะเดียวกัน ไทยมีความพร้อมซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผลิตมาแล้วจะมีตลาดรองรับ และมั่นใจในมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทยตามที่ได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยเมื่อปีก่อน”

ยาซูฮิโกะ ยูคิโยชิ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สไปเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายยูคิโยชิ กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้บริษัทได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อปลายปีก่อน โดยได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดภาษีนิติบุคคลเป็นระยะเวลา 10 ปี และได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรในการผลิต ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วมีความคืบหน้าประมาณ 20-30% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและทดลองเดินเครื่องได้ในช่วงกลางปี 2563 และเริ่มปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2564 ซึ่งเฟสแรกคาดว่าจะสามารถผลิตได้ผงโปรตีนประมาณหลายร้อยตัน จากนั้นจะส่งให้กับบริษัทแม่ในญี่ปุ่นเพื่อนำไปทำการตลาด

ส่วนการจัดหาวัตถุดิบโมลาสในการผลิตนั้น คาดว่าจะใช้ปริมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลมิตรผล ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของไทย

“ผงโปรตีนนี้จะสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเส้นใยแทนกลุ่มโพลิเอสเตอร์ ซึ่งทำจากปิโตรเคมี เส้นใยนี้สามารถนำไปใช้ผลิตเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้าสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานของนักบินอวกาศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทขายให้กับองค์กรด้านอวกาศของญี่ปุ่น หรือ JAXA และสามารถใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยางรถยนต์เพื่อเพิ่มคุณภาพความยืดหยุ่นและยึดเกาะถนน โดยปัจจุบันมีจำหน่ายให้กับบริษัทบริดจสโตน และใช้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ”

นายยูคิโยชิกล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมของเราจะช่วยต่อยอดให้วัตถุดิบทางการเกษตรของไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้จำนวนมาก เพราะราคาผงโปรตีนปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อตัน อีกทั้งจะช่วยให้มีการจ้างงานคนไทยในประเทศ เพราะตอนนี้กำลังรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น วิศวกรโรงงาน ทรัพยากรบุคคล ธุรการ บัญชีและการเงิน เป็นต้น

อนึ่ง บริษัทสไปเบอร์เป็นสตาร์ตอัพจากญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 27 กันยายน 2550 เป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นจนสามารถระดมทุนได้มากกว่า 30,000 ล้านเยน หรือ 10,000 ล้านบาท