“ฉัตรชัย’ สั่งสอบทุจริตโครงการ9101 ตามรอยเท้าพ่อ single command รายจังหวัด ยันการทำงานโปร่งใส

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้นายนำชัย พรหมมีชัย รักษาการปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำหนังสือถึงคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ (ซิงเกิ้ลคอมมานด์) ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน หลังจากมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน โดยส่วนใหญ่เป็นกรณีค่าจ้างแรงงานไม่ตรง และการจัดเวทีชุมชน ซึ่งบางพื้นที่ร้องเรียนว่าไม่มีการจัดเวทีชุมชนจริง

“ปัจจุบันทางกรมส่งเสริมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องที่ร้องเรียนเสร็จแล้ว ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ และไม่พบมูลความจริงที่กล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำความผิด และขณะนี้บางจังหวัดยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการระดับอำเภอ นอกจากนี้ ยังได้เชิญหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลร่วมตรวจสอบ หากปรากฏหลักฐานว่า เจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงตามอ้าง จะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการทันที ไม่มีการละเว้น”

สำหรับปัจจุบันโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ สามารถทำให้เกิดกิจกรรม 24,760 กิจกรรม ภายใต้วงเงิน 20,054.62 ล้านบาท ประกอบด้วย สมาชิกกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินโครงการ 1.56 ล้านราย และเกษตรกรที่คาดว่าได้รับประโยชน์จากโครงการฯ ทั้งประเทศ 7.78 ล้านราย ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ได้ประเมินผลความพึงพอใจของเกษตรกร พบว่า เกษตรกร 96.12% พึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุดต่อเนื่องจากเป็นโครงการที่ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การกำกับ ดูแล และตรวจสอบโครงการ9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ ได้วางแนวทางไว้ตั้งแต่ก่อนการดำเนินงานโครงการฯ

โดยแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง ได้แก่ 1. กรมส่งเสริมการเกษตรได้เรียกประชุมชี้แจงในระดับผู้ปฏิบัติงานโครงการ เปิดโอกาสให้ซักถาม และจัดประชุมชี้แจงเฉพาะ กรณีการเบิกจ่ายเงินภายใต้โครงการ 2.การเขียนคู่มือโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบ โดยมีสำนักงบประมาณ ฯลฯ ช่วยในการกลั่นกรอง ซึ่งคู่มือโครงการ ได้มีการย้ำชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่เกษตรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่ทำหน้าที่ประสาน และคอยอำนวยความสะดวกในการจัดเวทีชุมชน

และ3. การดำเนินการทั้งหมด ทุกโครงการฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ซึ่งมีนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฯ เป็นโครงการที่พิจารณาแล้วว่าก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาการเกษตร คุ้มค่ากับงบประมาณและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร ทำหน้าที่เพียงกำกับและตรวจสอบเท่านั้น การดำเนินโครงการ การเบิกจ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ดำเนินการโดยคณะกรรมการของชุมชน ในส่วนของค่าจ้างแรงงานจะเบิกจากผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) ของเกษตรกรแต่ละราย