ทียูเปิดแผน 5 ปี ปั๊มรายได้ 1.5 แสนล้าน ทุ่มลงทุน 2.75 หมื่นล้าน ดึง 23 สตาร์ตอัพ อาหารต่อยอดนวัตกรรมมาร์จิ้นสูง จับตาผลกระทบโควิด-19 ฉุดท่องเที่ยวทรุด
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือทียู กล่าวว่า ทียูตั้งเป้าหมายรายได้ 5 ปีตั้งแต่ 2563-2567 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% หรือ 24,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปี 2567 มีรายได้ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 150,000 ล้านบาทจากปี 2562 ที่มีรายได้ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หากรวมพอร์ตลงทุนในบริษัท อะแวนติโฟรเซ่น ฟู้ดส์ จำกัด และบริษัท เรด ล็อบสเตอร์ ซีฟู้ด จำกัด ทำให้บริษัทมีรายได้ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 5 ปีข้างหน้าตลาดสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 41% ยุโรปจาก 28% เป็น 30% เอเชียและอื่น ๆ 30% ส่วนตลาดในประเทศจาก 8% เป็น 12%
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
“ปีนี้จะเน้นความสามารถการทำกำไร ลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เราตั้งงบประมาณลงทุน 5 ปี 27,500 ล้านบาท งบฯลงทุนนี้ไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งเราไม่ได้โฟกัสมากนัก แต่จะเน้นลงทุนเครื่องจักร นวัตกรรม ขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูง ได้แก่ อาหารสัตว์ ส่วนประกอบโปรตีนสกัดจากพืชและสัตว์ (marine ingredients)”
นายธีรพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดึงสตาร์ตอัพ 23 รายจาก 6 ประเทศขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารนวัตกรรม
วางงบฯลงทุน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้งเป้าหมายจะลงทุนในสตาร์ตอัพที่มีอัตราการทำกำไรที่ 20% ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการทำกำไรอยู่ที่ 15-16%
ส่วนความคืบหน้าการนำไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ (TFM) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2 นี้
“ยอดขายช่วงเดือนแรกยังปกติ โควิด-19 ส่งผลระยะสั้นเท่านั้น ตลาดจีนเราเล็กมาก ๆ ช่วงนี้ตลาดในประเทศท้าทายที่สุดแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวลด รายได้ก็ลด ตลาดในประเทศมีสัดส่วน 12% แต่ตลาดสหรัฐและอียู เป็นตลาดหลักของเรายังแข็งแกร่งมาก”
