ลุ้น ‘สุพันธ์ุ’ ต่อวาระประธาน สอท. สานต่องานกู้เศรษฐกิจ

ชิงดำประธาน ส.อ.ท. 30 มี.ค. จับตา “สุพันธุ์ มงคลสุธี” ต่ออีกสมัย มุ่งสานต่อนโยบายดูแลรากหญ้า SMEs เชื่อมรัฐ-เอกชน พยุงเศรษฐกิจ การลงทุนฝ่าวิกฤต ผลัดใบเก้าอี้ประธาน 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ล่าสุด เครื่องมือแพทย์ พลาสติก เหล็ก ได้ประธานกลุ่มคนใหม่เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มี.ค. 2563 นี้ ในวาระการประชุมจะมีการรายงานผลการดำเนินงานในรอบปี 2562 และจะมีการเลือกตั้ง ประธาน ส.อ.ท.คนใหม่เนื่องจากนายสุพันธุ์ มงคลสุธี  ส.อ.ท. คนที่ 16 ดำรงตำแหน่งครบวาระ 2 ปี ตั้งแต่ 2561-2563 เบื้องต้นในแวดวง ส.อ.ท.ยังคาดว่า นายสุพันธุ์จะยังได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัย และยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้สมัครชิงในครั้งนี้  

แหล่งข่าวระบุว่า น่าเป็นผลมาจากที่นายสุพันธุ์ สามารถเชื่อมการทำงานระหว่างรัฐและเอกชนได้ดี และสามารถผลักดันมาตรการรวมถึงนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้อย่างมาก อาทิ มาตรการช่วยเหลือลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ เพื่อลดภาระเอกชนจากปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงการเรียกร้องข้อเสนอให้ภาครัฐรับฟังเสียงจากเอกชนมากขึ้น จนทำให้ภาพรวมการดำเนินงานในปีที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่เป็นไปได้ดี อย่างไรก็ตามยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนที่จะมีการเปิดรับสมัครบุคคลที่จะเข้ามาลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็ยังต้องจับตามองต่อไป และระหว่างนี้ แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 45 กลุ่ม ได้ดำเนินการเลือกตั้งประธานกลุ่มคนใหม่แล้วหลายกลุ่ม 

นายภราดร จุลชาติ อดีตประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นายวิรัช
เกลียวปฏินนท์ ได้รับเลือกเป็นประธานกลุ่มคนใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยนโยบายปี 2563 จะเน้นเรื่องสร้างความเข้าใจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ทำงานกับภาครัฐ สนับสนุนเรื่องของ single-use ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิล อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โลกยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมพลาสติกหดตัวลง จากดีมานด์โลกที่ลดลง ทั้งผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ ส่งผลให้ปี 2562 อุตสาหกรรมพลาสติกไม่โต ซึ่งปี 2561 โต 3-5% และคาดว่าปี 2563 อาจโตติดลบ

นายวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม อดีตประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ และประธานกิตติมศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มได้เลือกนายอดิศร อาภาสุทธิรัตน์ เป็นประธานกลุ่มคนใหม่ ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยปีนี้เรื่องสำคัญ คือ การเดินหน้าหารือกับทางภาครัฐ หลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ ฉบับใหม่ปี 2560 ที่จัดเก็บค่าธรรมเนียม ค่าประเมินค่าใช้จ่ายเครื่องมือแพทย์ในอัตราใหม่ จาก 1,000 บาทเป็น 100,000 บาทที่ส่งผลกระทบอย่างหนักกับเอกชน 

ล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กมีมติเอกฉันท์เลือกนายนาวา จันทนสุรคนจากบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก วาระปี 2563-2565 จะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป แทนนายวิกรม วัชรคุปต์ ที่ครบวาระ โดยมีนโยบายจะดำเนินงานร่วมกับกลุ่ม 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย ที่มีสมาชิกกว่า 470 บริษัท เพื่อนำเสนอปัญหาและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กกับภาครัฐต่อไป

นายนาวากล่าวว่า จะเดินหน้าภารกิจด้านต่าง ๆ ทั้งประสานนโยบายกับภาครัฐ เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพ และประโยชน์ของอุตสาหกรรม เสริมบทบาทการเป็นผู้ชี้นำอุตสาหกรรมเหล็กไทยให้เป็นที่พึ่งของสมาชิก มุ่งยกระดับการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรม และสร้างประโยชน์สูงสุดของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจไทย สร้างพันธมิตรกับกลุ่มอุตสาหกรรมรวมถึงเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ
เพื่อร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลง สร้างความร่วมมือระหว่างสมาชิก เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก 


“แม้ความต้องการใช้เหล็กของไทยจะขยายตัว 0.5% จากปี 2562เป็นปริมาณ 18.6 ล้านตันในปี 2563 หรือเฉลี่ย 279 กิโลกรัมต่อประชากร 1 คนแต่ในปีถัด ๆ ไปน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น หากโครงการก่อสร้างภาครัฐโดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่งระยะยาวที่มีงบประมาณมากกว่า 2 ล้านล้านบาทส่งเสริมการใช้สินค้าเหล็กที่ผลิตในประเทศได้เป็นลำดับแรก ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนของการเติบโตและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ รวมถึงการจ้างงานภายในประเทศ”