“น้ำตาลขาด”โมเดิร์นเทรดบีบซื้อได้ไม่เกิน 6 ถุง/บิล

ห้างโมเดิร์นเทรด “จำกัดปริมาณการซื้อน้ำตาล” หลังแล้งหนักผลผลิตอ้อยวูบ 40% “มิตรผล” ยืนยันเดินหน้าผลิตมั่นใจไม่วิกฤตพร้อมดึงน้ำตาลดิบสต๊อกมาผลิต แนะใครไม่พร้อมามารถโยกให้โรงงานที่พร้อมผลิตแทน ด้าน คกก.อ้อยและน้ำตาล เรียกประเมินสถานการณ์สัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากการสำรวจการจำหน่ายน้ำตาลในขณะนี้ พบว่าห้างค้าปลีกโมเดิร์นเทรดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เริ่มมีการจำกัดปริมาณการซื้อน้ำตาลทรายบรรจุถุงคนละไม่เกิน 6 ถุง อีกทั้งปริมาณสินค้าน้ำตาลบางแบรนด์เริ่มไม่มีวางจำหน่ายแล้ว โดยอาจจะมีผลสืบเนื่องมาจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตอ้อยในปี 2562/2563 ลดลง

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงวิกฤตน้ำตาล ว่า ภาวะภัยแล้งกระทบผลผลิตอ้อยหายไป 40% โรงงานน้ำตาลมีการปิดหีบเร็วขึ้น จากเดิมจะหีบธันวาคม-มีนาคม หรือบางปีลากยาวถึงเมษายน แต่ปีนี้ปิดหีบกุมภาพันธ์

“ถามว่าวิกฤตไหม ผมว่าคงยังไม่วิกฤต แต่บางกลุ่มอาจจะผลิตได้จำกัด ซึ่งปกติโรงงานจะหีบและผลิตน้ำตาล 4 เดือนทำรีไฟน์น้ำตาลทรายขาว และเก็บน้ำตาลทรายดิบมาละลาย ถ้าพลังงานไม่พอก็ให้คนอื่นที่มีพลังงานพอทำให้”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางบริษัทยังผลิตน้ำตาลเป็นปกติ โดยหลักเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศไทยก่อน ที่เหลือจึงจะส่งออก สำหรับการขายในประเทศเรามีการผลิตประมาณ 2.5 แสนตัน แบ่งกระจายไปให้กับภาคครัวเรือน และส่งให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนมากกว่า ส่วนการส่งออกจะส่งออกตามสัดส่วนที่ผลิตได้ (ตามโควตา) ถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำตาลในตลาดต่างประเทศจะมีระดับราคาที่ดีขึ้น การจะเพิ่มการส่งออกก็จะสามารถทำได้ถ้ามีของ

“ตอนนี้สถานการณ์ราคาน้ำตาลปรับลดลงจากช่วงต้นปี ที่เคยขาย 14-15 เซนต์ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลง”

สำหรับราคาขายในประเทศนั้น เบื้องต้นราคาที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กำหนดให้ขายหน้าโรงงาน กก.ละ 17-18 บาท ซึ่งยังต้องบวกราคาแพ็กเกจ ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขาย กก.ละ 21-22 บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะมีการประกวดราคาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตอ้อยและปริมาณน้ำตาลที่จะเข้าสู่ระบบ ทั้งเพื่อการบริโภคและการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

รวมไปถึงการส่งออกจะมีสถานการณ์อย่างไรเพียงพอหรือไม่ ราคาจะต้องมีการปรับตัวหลังจากปัญหาภัยแล้ง จะกระทบต่อผลผลิตอ้อยน้อยลง และจะทำให้ปริมาณน้ำตาลเข้าสู่ระบบน้อย

ขณะที่การติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาน้ำตาลทรายในท้องตลาดทั่วไปตามการติดตามของเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายใน ปัจจุบันพบว่าปริมาณน้ำตาลที่ขายในท้องตลาดที่ยังมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไป

อีกทั้งจากการติดตามยังไม่พบการจำกัดปริมาณการซื้อขาย และจากการสำรวจปริมาณน้ำตาลยังมีจำนวนมากยังไม่ขาดตลาดแน่นอน สำหรับในส่วนของราคาน้ำตาลทรายยังคงจำหน่ายในราคาปกติยังไม่มีการปรับขึ้น โดยราคายังขึ้นอยู่ตามคุณภาพและชนิดของน้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จำหน่ายที่ราคา กก.ละ 13-22 บาท ส่วนราคาน้ำตาลทรายแดงจำหน่ายอยู่ที่ กก.ละ 17-26 บาท ทั้งนี้ ยังไม่พบการร้องเรียนในปัญหาว่ามีน้ำตาลปรับขึ้นหรือมีการจำกัดปริมาณการซื้อ อย่างไรก็ดี ส่วนปริมาณและทิศทางราคาจากนี้จะเป็นอย่างไรต้องรอการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


รายงานข่าวจากกรมศุลกากร ระบุว่าการส่งออกน้ำตาลในเดือนมกราคม 2563มีปริมาณ 576,194 ตัน เพิ่มขึ้น 16%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่า 179 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน