“ธรรมนัส” ยังกักตัวหนีโควิด14วัน “เฉลิมชัย”บิ๊กคลีนนิ่งกระทรวง สั่งเข้มสกัดสินค้าเกษตรลักลอบข้ามแดน

รมว.เฉลิมชัย คุมเข้มข้าราชการและเกษตรกรที่มาติดต่อ สั่งจัดเต็มกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งพ่นฆ่าเชื้อกันโรคโควิด-19 ทั่วกระทรวงเกษตรฯ ด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากเยอรมัน เข้มงวดเกี่ยวกับสุขอนามัยในส่วนของเกษตรกรที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบบุฟเฟ่ต์ผลไม้และแรงงานในสถานประกอบการคัดบรรจุและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวังผลกระทบสินค้าเกษตร และการลักลอบนำเข้าผลผลิตเกษตรตามชายแดนช่วงภัยแล้งและโควิด-19 ระบาด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ในขณะนี้ ดังนั้น เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเกษตรกรที่มาติดต่อประสานงานเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน รวมถึงประชาชนทั่วไป จึงได้สั่งการให้มีการจัดกิจกรรมทำความสะอาด Big Cleaning เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ทั่วบริเวณพื้นที่ภายในและรอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในช่วงเช้าของวันนี้ (18 มีนาคม) โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสต่าง ๆ เป็นการลดความเสี่ยงในการแพร่ระบา และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาติดต่อราชการและบุคลากรภายในหน่วยงาน

ขณะที่การดำเนินการครั้งนี้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากบริษัทเอกชนผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดจากเยอรมันที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มีมาตรการตั้งจุดคัดกรอง (จุดวัดไข้) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้ากระทรวง โดยขอความร่วมมือผู้ที่มาติดต่อราชการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังอยู่ระหว่างกักตัวที่บ้านพัก 14 วัน โดยได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“ถึงผลตรวจเชื้อ COVID 19 ของผมเป็นลบ แต่วันนี้ผมก็ยังคงกักตัวอยู่บ้านพร้อมทำงานเพื่อประชาชนไปด้วย ซึ่งถ้าใครอยู่ในภาวะเสี่ยง ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดการกระจายเชื้อด้วยนะครับ เราจะสู้ COVID ไปด้วยกัน”

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ส่วนการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ในภาคการเกษตรนั้น ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังผลกระทบสินค้าเกษตร ซึ่งมอบอำนาจหน้าที่ในการติดตามและเฝ้าระวัง เพื่อเตรียมการรับมือและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลตาม

ทั้งนี้ ยังได้ขอความร่วมมือหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั่วประเทศเข้มงวดเกี่ยวกับสุขอนามัยในส่วนของเกษตรกรที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบบุฟเฟ่ต์ผลไม้และแรงงานในสถานประกอบการคัดบรรจุและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยมอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) เฝ้าระวังและป้องกันโรคต่าง ๆ อย่างเข้มงวด แล้วรายงานสถานการณ์ต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานทุกระยะ อีกด้วย

นอกจากนี้ จากสถานการณ์ภัยแล้ง และผลกระทบจากโควิด 19 ส่งผลให้มีสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง กาแฟ ถั่วเหลือง และมะพร้าว มีปริมาณการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทั้งการบริโภคโดยตรงและใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

“ราคาในประเทศบางสินค้าอยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อเทียบกับราคาของต่างประเทศ ทำให้มีการลักลอบการนำเข้าเพื่อสวมสิทธิ์เป็นสินค้าเกษตรของไทยหรือการหลีกเลี่ยงทางภาษี เช่น ปาล์มน้ำมัน จึงได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานความมั่นคง กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้มงวด ตรวจสอบ จับกุมการลักลอบการนำเข้า โดยเฉพาะตามแนวชายแดน” นายเฉลิมชัยกล่าว