ย้ำ กทม.ปริมณฑล ปิดพื้นที่เสี่ยง แต่สินค้ายังเพียงพอให้ซื้อ

กรมการค้าภายในย้ำ แม้ปิดสถานที่เสี่ยงใน กรุงเทพฯปริมณฑล สินค้ายังเพียงพอแน่นอน แนะประชาชนไม่ต้องแตกตื่นกักตุน

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานครได้ประกาศสั่งปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่ม 22 วัน เริ่ม 22 มี.ค. -12 เม.ย. 63 เว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารขายได้เฉพาะหิ้วกลับบ้าน ทำให้ประชาชนออกมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นจนทำให้สินค้าบางอย่างหมดอย่างรวดเร็ว กรมการค้าภายใน ขอยืนยันว่าได้มีการติดตามสถานการณ์กับผู้ผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการยืนยันว่า มีสินค้าเพียงพอกับความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน

รวมทั้ง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา กรมได้หารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย, สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป, สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง, สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่, สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย, สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ, สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน และสมาคมผู้วิจัยและผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งหมวดของใช้ประจำวัน หมวดอาหารและเครื่องดื่มและห้างสรรพสินค้า ได้ยืนยันว่าสินค้าสามารถผลิตสินค้าได้ต่อเนื่อง

กรมการค้าภายในขอเรียนว่า การที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดจำนวนลงอย่างมาก ทำให้ความต้องการสินค้าอุปโภคและบริโภคแต่เดิมลดลงอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เพียงแต่ความตื่นตระหนกของประชาชนในระยะสั้น อาจจะทำให้ดูเหมือนว่าสินค้าอาจะขาดแคลนในอนาคต ซึ่งไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้ประสานไปยังห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้รับการยืนยันว่ามีสต๊อกสินค้าเพียงพอกับความต้องการของประชาชน และจะเร่งทยอยเติมสินค้าในเชลฟ์ให้มีสินค้าวางขายอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกักตุนสินค้า ทั้งนี้ตามประกาศยังคงเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารโดยขายได้เฉพาะหิ้วกลับบ้านซึ่งประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ตามปกติ