ไข่ไก่ไม่ขาดตลาด ไม่แพงแล้ว หลังพาณิชย์ขยายเวลาแบนส่งออก 30 วัน

สรุปผลการปฏิบัติการ ติดตามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับไข่ไก่ พบสถานการณ์ดีขึ้น ทั้งด้านปริมาณและราคาจำหน่าย ส่วนผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยแพง และกักตุนเจลแอลกอฮอล์ พบเพิ่มขึ้น 6 ราย รวมยอดจับกุมไข่ไก่คงที่ 24 ราย ส่วนยอดรวมจับกุมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ รวม 236 ราย

นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ ของกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา การดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดในส่วนของไข่ไก่ ในการจำหน่ายแพง ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขณะนี้ ไม่พบผู้กระทำความผิดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเป็นผลจากการเข้มงวดของกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ห้ามการส่งออกไข่ไก่ไปอีก 30 วัน เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่ในระบบ และทำให้สถานการณ์ไข่ไก่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น และปัญหาการจำหน่ายไข่ไก่ราคาสูงเกินจริงลดลง ส่วนยอดจับกุมรวมตั้งแต่วันที่ 26-31 มี.ค.2563 ยังคงที่อยู่ที่ 24 ราย

ส่วนผลการจับกุมผู้กระทำความผิดในส่วนของหน้ากากอนามัย ณ วันที่ 31 มี.ค.2563 จับกุมได้อีก 6 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 5 ราย ได้แก่ ร้านค้า Online บน Platform Facebook 2 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุม โดยกระทำความผิดจำหน่ายเกินราคาควบคุมและขายราคาเกินสมควร โดยหนึ่งในนั้นผู้กระทำความผิดเป็นชาวเวียดนาม (จำหน่ายหน้ากากนำเข้า) ร้านค้าทั่วไป 2 ราย โดยทั้ง 2 ราย เป็นการกระทำความผิดในข้อหาขายเกินราคาควบคุม พบขายหน้ากากอนามัย เฉลี่ยชิ้นละ 16–25 บาท และอีก 1 ราย กระทำความผิดไม่แจ้งการครอบครองเจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์

ต่างจังหวัด 1 ราย ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ทำการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ตำรวจภูธรปทุมราชวงศา ด้วยการเข้าล่อซื้อหน้ากากอนามัยแบบเส้นใยสังเคราะห์ 3 ชั้น สีฟ้า-ขาว จำนวน 5 ชิ้นๆ ละ 20 บาท จากร้านค้าใน ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา พบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แบบกรอง 3 ชั้น สีขาว-เขียวฟ้า จำนวน 3 กล่องเศษ รวม 161 ชิ้น จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและเชิญผู้ประกอบการร้านค้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.ปทุมราชวงศา เพื่อดำเนินคดีกระทำความผิดจำหน่ายเกินราคาควบคุม และไม่ปิดป้ายแสดงราคา

สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุพพัต กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยเฉพาะสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ทั้งไข่ไก่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ประชาชนต้องการในสถานการณ์การระบาดของไวรัส โควิด-19 รวมถึงจะมีการตรวจสอบและติดตามสินค้ารายการอื่นๆ อย่างใกล้ชิดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาส โดยหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และในต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด