ห้ามส่งออก 30 วัน หวังกดราคาขายไข่ในประเทศลง

ดีมานด์ไข่ไก่เพิ่ม 3 เท่า “จุรินทร์” ประกาศกกร. ห้ามส่งออกไข่ไก่เพิ่มจาก 7 วัน อีก 30 วัน พร้อมยืดระยะปลดแม่ไก่ยืนกรงออกไปอีก 2 เดือน แก้ความต้องการบริโภคพุ่ง 3 เท่า คุมราคาหน้าฟาร์มขายไม่เกิน 2.80 บาท/ฟอง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า สถานการณ์ราคาไข่ไก่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิม อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาฟองละ 3.50-3.60 บาท หลังจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ลงนามประกาศ กกร. ขยายระยะเวลาห้ามส่งออกไข่ไก่เพิ่มเติมอีก 30 วัน จากเดิมที่ห้ามส่งออกไข่ไก่ชั่วคราว 7 วัน ซึ่งได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. 2563 จะขยายไปสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย. 2563 แต่หากสถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้น มีเพียงพอต่อการบริโภคของประชาชน ก็อาจยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกไข่ไก่ดังกล่าวออกไปชั่วคราวได้

นายจุรินทร์กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ต้องขยายระยะเวลา เนื่องจากความต้องการบริโภคไข่ไก่มากกว่าปกติถึง 3 เท่าตัวจาก 39 ล้านฟอง/วัน จากตัวเลขการผลิตอยู่ที่ 40-41 ล้านฟอง/วัน เดิมเคยเหลือส่งออก 1 แสนฟองถึง 1 ล้านฟอง/วัน ก็จะกลับเข้ามาหนุนตลาดในประเทศ โดยเร่งรัดให้ฟาร์มต่าง ๆ ส่งไข่ไก่เข้าไปยังศูนย์กระจายสินค้า โดยเฉพาะห้างค้าปลีกและร้านค้าปลีก เพื่อให้ไข่ไก่กระจายถึงมือประชาชน และขอความร่วมมือกำหนดราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม ไม่เกิน 2.80 บาท/ฟอง

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมมือกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืดระยะเวลาการปลดแม่ไก่ยืนกรงจากเดิมระยะเวลา 72 สัปดาห์ออกไปเป็น 80 สัปดาห์ หรือยืดระยะเวลาออกไป 2 เดือน เพื่อไม่ให้ไข่ไก่ออกสู่ตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม หากพบพฤติกรรมการกักตุนไข่ไก่ จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย หากพบว่ามีการกักตุนและค้ากำไรเกินควรต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า ผู้ส่งออกที่ส่งออกไข่ไก่สูงสุด คือ บริษัท เกษมชัยฟู๊ด จำกัด, บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่งจำกัด, บริษัท แสงทองฟู๊ด จำกัด, บริษัท มงคลเกษมรุ่งเรือง จำกัด, บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด, บริษัท ฮิลไทรบ์ ออร์แกนิคส์ จำกัด, บริษัท อิออน ท๊อปแวลู (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ท๊อปแวลู (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทศกัณฑ์ คอร์ป และส่วนราชการด่านศุลกากรสังขละบุรี