กาฬโรค-โควิด ถล่มกีฬาขี่ม้า ปศุสัตว์ห้ามขนย้าย-จัดแข่งไม่ได้

FILE PHOTO: Photo by Chaiwat Subprasom/NurPhoto via Getty Images
สัมภาษณ์พิเศษ

กาฬโรคแอฟริกาในม้า หรือ African Horse Sickness (AHS) กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการปศุสัตว์ นับจากเกิดปัญหาม้าตาย 199 ตัว ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ กระทั่งกรมปศุสัตว์ออกมายืนยันผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการในต่างประเทศว่า โรคดังกล่าวเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย ออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายม้า รวมถึงพิจารณานำเข้าวัคซีน ประเด็นดังกล่าวส่งผลต่อวงการกีฬาแข่งม้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นารา เกตุสิงห์” เลขาธิการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงถึง 117 คลับ ที่มีม้าถึง 1 ใน 5 ของประชากรม้าทั้งประเทศ

Q : ภาพรวมการระบาด AHS

ได้ประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์แล้วตอนนี้ทุกคนรับทราบข้อมูลจากทางกรมไม่ต่างกันว่า พื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาด คือ นครราชสีมา และกระจายออกมาจากการขนย้ายออกจากพื้นที่ก่อน

ที่จะมีการประกาศตาม พ.ร.บ.โรคระบาด ไปยัง 5 จังหวัด คือ ชลบุรี ชัยภูมิ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี ม้าตายจำนวน 199 ตัว ยังไม่มีเพิ่มเติม

Q : มาตรการกรมปศุสัตว์เป็นอย่างไร

กรมจึงได้ออกประกาศงดการเคลื่อนย้ายเป็นเวลา 90 วัน ในพื้นที่รัศมีรอบ ๆ การระบาด 20-50-150 กม. แต่ยังไม่รู้ควรจะนับ 90 วัน ถึงวันไหน ในระหว่างนี้ทุกพื้นที่ก็ระมัดระวังกันหมด

Q : มองเรื่องนำเข้าวัคซีนอย่างไร

มาตรการขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) กำหนดเป็นขั้นตอนไว้ว่า ควรเริ่มจาก 1) การ quarantine หรือกักกันตัวม้า 2) การทำ biosecurity การรักษาความสะอาด กำจัดพาหะนำโรคทางตรง

ส่วนการใช้วัคซีนสำหรับการรักษาเป็นแนวทางสุดท้าย ขึ้นอยู่กับกรมปศุสัตว์และผู้มีอำนาจที่จะพิจารณา การใช้วัคซีนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ วัคซีนที่จะนำมาใช้เป็นวัคซีนเชื้อเป็น หมายถึง เราจะต้องฉีดเชื้อ AHS เข้าไปในม้าเพื่อให้ม้าสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเอง ซึ่งถ้าฉีดโดยไม่ระวังการใช้ เท่ากับว่าม้าที่มีเชื้อ AHS อาจแพร่เชื้อไปยังม้าอื่นได้ ในระหว่างที่ร่างกายม้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน เพราะต้องใช้เวลาสร้างภูมิคุ้มกัน 28-40 วัน

ADVERTISMENT

Q : หากใช้วัคซีนต้องดูแลอย่างไร

กรมปศุสัตว์จะเป็นผู้พิจารณาให้มีการนำเข้าวัคซีน และกำหนดให้มีผู้ถือครองวัคซีน และผู้ทำการรักษา ซึ่งไม่ควรจะปล่อยให้เป็นระบบที่มีการซื้อขายทั่วไป ต้องให้มีการเบิกใช้ หรือจำกัดพื้นที่ในโซนที่ห่างจากพื้นที่ระบาดไม่เกิน 20 กม. เป็นต้น

ส่วนแหล่งนำเข้านั้น ปัจจุบันวัคซีนโรคชนิดนี้มีเพียงที่แอฟริกาใต้เท่านั้น แต่การจะนำเข้าต้องตรวจสอบสายพันธุ์ที่แน่ชัดของโรคว่ามาจากซีโรไทด์ใด เท่าที่ทราบ โรคนี้มี 9 ไทด์ ที่ระบาดในไทยเป็นไทด์ที่ 1 หลังจากทราบก็ต้องสั่งผลิต ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ยังต้องรอกรมฯพิจารณา ถ้าหากยืนยันได้ว่าวัคซีนเป็นทางเลือกที่ดีเจ้าของม้าก็พร้อมจ่าย

Q : ควรควบคุมการนำเข้าม้าลาย

การดูแลพวกม้าลาย อูฐ ลา ล่อ ยังมีช่องว่างทางกฎหมายซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นสัตว์ป่า ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ แต่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานฯ ซึ่งล่าสุดทางกรมปศุสัตว์ได้แก้ประกาศให้เพิ่ม “ม้าลาย ลา ล่อ อูฐ” ต้องมาอยู่ในการดูแลภายใต้ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์แล้ว

Q : ผลกระทบต่อสมาคม

สมาคมขี่ม้าฯ มีหน้าที่สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าของสมาพันธ์กีฬาฯ และตามนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย ประเด็นนี้กระทบต่อสมาคม 100% เพราะเมื่อประกาศ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ การเคลื่อนย้ายทำไม่ได้ การจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าก็ทำไม่ได้ เพราะแม้แต่พื้นที่ที่ไม่มีการระบาดก็ยังกลัวไม่มีใครกล้าเสี่ยงแม้จะอยู่ห่างไกลออกไป แต่ก็มองว่ายังกระจุกอยู่ในรัศมี 6 จังหวัดดังกล่าว เปรียบเสมือนกับการระบาดของโควิด-19 ซึ่งสิ่งแรกที่ทำคือหยุดการเคลื่อนย้าย เพราะความรุนแรงของโรคนี้เท่าที่ทราบ โอกาสรอดน้อยมากติดแค่ 1-2 วันก็เสียชีวิตแล้ว

Q : ต้องระงับการแข่งขันกีฬาขี่ม้า

เป็นปัญหาต่อสมาคมในการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งตั้งแต่ต้นปีสมาคมก็ประกาศหยุดจัดการแข่งขันจากการระบาดของโควิด-19 ก่อนแล้ว และเมื่อมาเกิดโรคนี้ขึ้นก็ต้องระงับไปก่อน โดยไม่รู้ว่าจะสามารถกลับมาจัดการแข่งขันได้เมื่อไร เพราะขึ้นอยู่กับกรมปศุสัตว์จะประกาศว่ากลับสู่ภาวะปกติ และยังขึ้นอยู่กับโควิด-19 ด้วย

โดยปกติจะจัดแข่งขันกีฬาขี่ม้า สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ช่วงครึ่งปีแรกเป็นการแข่งขันในกลุ่มชมรม สโมสร ส่วนครึ่งปีหลังจะเป็นการแข่งขันระดับถ้วย President Cup ถ้วยชิงแชมป์ประเทศไทย และคิงส์คัพ ส่วนช่วงปลายปีเป็นการแข่งขันระดับ international ของสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติที่จะจัดในประเทศไทย

Q : ประเมินมูลค่าความเสียหาย

ในจำนวนประชากรม้าทั้งประเทศที่มีอยู่ 10,000 ตัว เป็นม้าที่เป็นของสมาชิกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมีทั้งหมด 117 คลับทั่วประเทศ แต่ละคลับจะมาลงทะเบียนรับพาสปอร์ตเข้าร่วมการแข่งขัน ประมาณ 2,000 ตัว แต่ในความเป็นจริงอาจจะมีมากกว่านั้น เช่น คลับหนึ่งอาจมีม้าที่เลี้ยง 50 ตัว ลงทะเบียนแข่งขัน 30 ตัว ที่เหลือเป็นการเลี้ยงไว้สำหรับงานประเภทอื่น

หากให้ประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นตัวเลขที่แน่ชัดอาจจะลำบาก เพราะระดับราคาม้ามีความแตกต่างกัน มีราคาต่ำสุดตัวละ 5-7 แสนบาทหลักล้าน หรือแพงที่สุด ตัวละ 10-20 ล้านบาท และเกี่ยวข้องกับอาชีพอื่น ๆ ทั้งครูสอนขี่ม้า คนฝึก คนเลี้ยง คนปลูกหญ้า หรืออุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์การเลี้ยง นับว่ามีมูลค่ามากมายต่อเศรษฐกิจ

Q : ปรับตัวสู่ออนไลน์โค้ชชิ่ง

ตอนนี้สมาคมต้องเร่งหาข้อมูลและให้ข้อมูลต่อสมาชิก เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดโดยเร็วที่สุด และแจ้งไปยังสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (FEI) ว่ามีการระบาดและไทยมีมาตรการดูแลอย่างไรบ้างร่วมกับทางกรมปศุสัตว์ ซึ่งก็แจ้งไปที่ OIE เพื่อประกาศการระบาด และควบคุมการเคลื่อนย้ายโดยเร็วที่สุด อีกด้านหนึ่งเมื่อไม่สามารถจัดแข่งขันกีฬาได้ หรือสถานการณ์ยืดเยื้อเราก็จะใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสปรับสู่การจัดสัมมนาออนไลน์ เพื่อโค้ชชิ่งให้ความรู้ประชาชนที่สนใจกีฬาขี่ม้าต่อไป