“ซีพี” เปิดโรงงานหน้ากากอนามัยให้ “คน.” ตรวจ ลั่น พ.ค.ผลิตได้ 3 ล้านชิ้น/เดือน

รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยนายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ไปตรวจเยี่ยม “โรงงานซีพีหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย” เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา

มีทีมผู้บริหารเครือซีพี นำเยี่ยมชมกระบวนการผลิตหน้ากากอนามัยที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้แก่ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายภูมิชัย ตรัยดลานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอุปกรณ์การเกษตร 2 บจ.เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม (KPI) ในฐานะหัวหน้าทีมควบคุมการก่อสร้างโรงงานหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย

สำหรับโรงงานดังกล่าวดำเนินการภายใต้มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และผลิตโดยบริษัท ซีพี โซเชียล อิมแพคท์ จำกัด

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โรงงานหน้ากากอนามัยของซีพีถือเป็นตัวอย่างสถานประกอบการที่ดี มีความสะอาด เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือ Surgical Mask

และด้วยกำลังการผลิตเดือนละ 3 ล้านชิ้นจะบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้ในระดับหนึ่ง โดยกรมการค้าภายใน ได้ส่งสายตรวจกรมการค้าภายในมาประจำที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งนี้ 2 คน เพื่อตรวจนับจำนวนหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ในแต่ละวัน รวมทั้งควบคุมการจัดส่งหน้ากากอนามัย เนื่องจากหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม

ด้าน นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเครือซีพีในการทำหน้ากากอนามัย มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเกิดภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย

“เรามั่นใจว่าจะผลิตหน้ากากได้เต็มที่เดือนละ 3 ล้านชิ้นได้ภายในต้นเดือน พ.ค.นี้ โดยจะเร่งพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับความต้องการหน้ากากอนามัยในช่วงวิกฤตและช่วยป้องกันการระบาดของโรคได้อีกทาง”

ทั้งนี้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะเป็นผู้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยฟรีแก่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เมื่อได้รับเพียงพอแล้ว จึงจะแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นลำดับต่อไป