พณ.หั่นงบงานแฟร์ช่วยโควิด หันจัด “VirtualExhibition” ดันส่งออก Q2

หั่นงบฯ “กรมส่งออก” เยียวยาโควิด-19 ทะลุ 100 ล้าน “พาณิชย์” ปรับแผนชูแพลตฟอร์มงานแฟร์ออนไลน์เสมือนจริง “Online Virtual Exhibition” ประเดิม 3 กลุ่มสินค้า เริ่มสินค้ากลุ่มคอนเทนต์-อาหาร-ไลฟ์สไตล์ เริ่มไตรมาส 2

จากนโยบายรัฐบาลที่ให้แต่ละหน่วยงานปรับลดงบประมาณประจำปี 2564 เพื่อดึงเม็ดเงินไปช่วยแก้ไขปัญหาโควิดนั้น กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับลดและปรับแผนการทำงานไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีงบประมาณที่ถูกตัดไปร่วมช่วยโควิด ราว 600-700 ล้านบาท เบื้องต้นหน่วยงานระดับกรมที่คาดว่าจะถูกตัดงบฯมากที่สุด คือ กรมขนาดใหญ่อย่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่จะถูกตัดไปราว 100 ล้านบาท จากภารกิจต่างประเทศที่จะหายไปจำนวนมาก ส่วนกรมอื่นก็ตัดลดหลั่นกันไป เช่น กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลักหลายสิบล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมถูกพิจารณาดึงงบประมาณปี 2564 ประมาณ 15% หรือวงเงิน 109 ล้านบาท จากการลดงบฯในการดำเนินกิจกรรมนำผู้ประกอบการไปเจรจาการค้าและแสดงสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถดำเนินการได้จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายประเทศประกาศปิดประเทศจึงต้องยกเลิกกิจกรรมต่าง ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะขยายวงกว้างและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่นโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับวางแผนรับมือและสนับสนุนผู้ส่งออก โดยเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นต้องพร้อมเดินหน้าได้ทันที ซึ่งยืนยันได้ว่าการตัดงบฯนี้จะไม่กระทบต่อกิจกรรมโดยรวมของกรมอย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้ กรมได้ปรับกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกรูปแบบใหม่ ที่เน้นการใช้ช่องทางออนไลน์เข้ามาช่วยเอกชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยนำเรื่องระบบออนไลน์มาช่วยจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกช่วงวิกฤต เช่น เจรจาซื้อ-ขายสินค้าผ่านระบบสื่อสารทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจรจาจับคู่ซื้อผลไม้ เช่น ผู้นำเข้าจากเกาหลีใต้จับคู่ซื้อมะม่วงจากไทย ปริมาณ 7,000 ตัน มูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าการปรับกิจกรรมเจรจาการซื้อ-ขายลักษณะนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

“กรมประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) 58 แห่งทั่วโลก ให้ประสานผู้นำเข้าแต่ละประเทศว่าต้องการสินค้าอะไร ซึ่งกรมจะเปิดเจรจาซื้อ-ขาย และหาผู้ขายที่มีศักยภาพให้ โดยประสานไปยังพาณิชย์จังหวัด 77 จังหวัด เตรียมผู้ส่งออกและเกษตรกรที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับการเจรจาดังกล่าว”

สำหรับแผนการจัดงานแสดงสินค้าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 กรมพิจารณาเลื่อนการจัดงานออกไป เช่น งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ (TILOG) ที่เลื่อนไปจัดในเดือนสิงหาคม, งานแสดงสินค้าอาหาร (THAIFEX) เลื่อนไปจัดในเดือนกันยายน 2563 และงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ในเดือนตุลาคม 2563 นั้น ทางกรมได้พิจารณาแนวทางการจัดกิจกรรมแสดงสินค้าออนไลน์เสมือนจริงขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางการส่งออกในช่วงที่ไทยเลื่อนกิจกรรมดังกล่าวออกไป และประเทศคู่ค้ายกเลิกกิจกรรม

“เป้าหมายการส่งออกปี 2563 กรมยังมองสถานการณ์เป็นบวก ตัวเลขนั้นเป็นเป้าหมายที่ต้องผลักดันต่อไป จึงไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เพราะต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 จะใช้ระยะเวลาเท่าไร คลี่คลายก็วิ่งได้เร็ว หากช้าก็ต้องปรับตัวต่อไป โดยสินค้าดาวเด่นในช่วงวิกฤตนี้ยังเป็นสินค้าข้าวหอมมะลิและข้าวหอมไทย ซึ่งมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าจากสหรัฐ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น สินค้าอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป พร้อมรับประทาน ปลาทูน่ากระป๋องและผักผลไม้กระป๋อง สินค้าวัตถุดิบ เช่น ผ้าผืน เส้นใยประดิษฐ์ ไปยังฐานผลิตเครื่องนุ่งห่ม ได้แก่ เวียดนาม เมียนมา บังกลาเทศ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอินเดีย เพื่อทดแทนแหล่งนำเข้าเดิม อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในทางการแพทย์/สินค้าเพื่อสุขอนามัย เช่น ถุงมือยางแบบบางสำหรับแพ็กสินค้า บรรจุภัณฑ์ กล่องอาหารสำหรับ food delivery น้ำยาทำความสะอาด เป็นต้น และยังมีสินค้าที่ตอบสนองการใช้ชีวิตภายในบ้าน เช่น เครื่องเล่นเกม สื่อออนไลน์เพื่อความบันเทิงภายในที่พัก รวมถึงอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายในบ้าน”

ด้านนางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ กล่าวว่า กรมเตรียมจัดงานแสดงสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เสมือนจริง (Online Virtual Exhibition) ครบวงจร นำร่องครั้งแรก จัดขึ้นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 ได้แก่ โครงการ Multimedia Online Virtual Exhibition (M.O.V.E.) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการด้านธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ มีผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์ แอนิเมชั่น เกม แคแร็กเตอร์ และมัลติมีเดียอื่น ๆ ตอบรับเข้าร่วมแล้ว 50 บริษัท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน30,000 ราย เกิดการจับคู่ซื้อ 350 กิจกรรม มูลค่า 1,000 ล้านบาท ในระหว่างการจัดงานวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2563

นอกจากนี้ ภายในงานจะมีกิจกรรมMovie Showcase จากผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไทย และการเสวนาเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการด้วย นอกจากงานนี้แล้ว กรมมีแผนจัดกิจกรรมลักษณะนี้ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารออนไลน์เสมือนจริง หรือ THAIFEX : Virtual Trade Fair (VTF) งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และสินค้าแฟชั่นออนไลน์เสมือนจริง หรือ Lifestyle Online Virtual Exhibition (L.O.V.E.)