“จับเพิ่ม อีก 2 ราย” ในกรุงเทพฯ ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 253,150 ชิ้น ต่างจังหวัดไม่พบรายงานจับกุมเพิ่ม ยอดรวมเพิ่มเป็น 397 ราย
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 26 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยสามารถ จับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ เพิ่ม 2 ราย ในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่พักผู้จำหน่ายชาวจีน 1 ราย พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยกล่องสีเขียว จำนวน 10,000 ชิ้น และหน้ากากอนามัย บรรจุซองใส จำนวน 150 ชิ้น รวม 10,150 ชิ้น แจ้งข้อหากระทำความผิดเป็นผู้ผลิต ไม่แจ้งต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้น และจับกุมบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัย อีก 1 ราย พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยนำเข้าจากประเทศจีน จำนวน 243,000 ชิ้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง และแจ้งข้อหากระทำความผิดเป็นผู้ผลิต ไม่แจ้งชื่อ และต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ต่อ กกร. ตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26 ส่วนในต่างจังหวัดไม่พบรายงานการจับกุมเพิ่ม
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
โดยสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ มียอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 397 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 176 ราย และต่างจังหวัด 221 ราย ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสุพพัตกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และจริงจัง กับผู้กระทำความผิดทุกราย ที่พบมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที อยากย้ำเตือนประชาชนอย่ากักตุนสินค้า หรือค้ากำไรเกินควร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าจำเป็นอื่น ๆ เช่น ไข่ไก่ สินค้าอุปโภค บริโภค เป็นต้น ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 เพราะถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน “หากผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569และ ในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด”