เงินเฟ้อ เมษายน 2563 ลดลง 2.99% ต่ำสุดรอบ 10 ปี พาณิชย์ ยันยังไม่ใช่ภาวะเงินฝืด

“พาณิชย์”เผยเงินเฟ้อเดือนเม.ย. 2563 ลดลง 2.99% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี 9 เดือน จากปัจจัยการลดลงของราคาน้ำมัน รวมถึงนโยบายรัฐ ลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ลดราคาสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ยันยังไม่เกิดภาวะเงินฝืด

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนเมษายน 2563 เท่ากับ 98.3 ลดลง 2.99% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำสุดในรอบ 10 ปี 9 เดือน ผลมาจากการลดลงของสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 11 ปี 2 เดือน และยังมีการลดลงของค่าไฟฟ้า น้ำมันประปา และสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพบางรายการที่ลดลงจากมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ร่วมมือกับผู้ผลิต ห้างสรรพสินค้าปรับลดราคาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เงินเฟ้อในภาพรวมลดลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 4 เดือนของปี 2563 (มกราคม-เมษายน) ลดลง 0.44% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับเงินเฟ้อเดือนเมษายน 2563 ที่ลดลง เป็นการลดลงของสินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลด 5.28% โดยเฉพาะหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลง 9.77% ตามราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงทุกประเภท หมวดเคหสถาน ลด 4.56% ขณะที่ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้น0.08% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้น 0.16% หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา สูงขึ้น 0.34% หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.02% ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 1.04% จากการเพิ่มของ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 7.36% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ เพิ่ม 1.37% ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 5.52% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 3.16% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 2.32% อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 0.58% นอกบ้าน เพิ่ม 0.32% แต่ผักสด ลด 9.58% ผลไม้สด ลด 1.71% แต่ทั้งนี้ เงินเฟ้อเมื่อเทียบเดือนมีนาคม 2563 ลดลง 2.03

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การที่เงินเฟ้อติดลบ จะเป็นภาวะเงินฝืดหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ฝืด แม้เงินเฟ้อจะติดลบมาแล้ว 2 เดือนติดต่อกัน เพราะตามทฤษฎี การเกิดเงินฝืด เงินเฟ้อต้องติดลบติดต่อกัน 3 เดือน สินค้าลดลงหลายประเภทและลดลงติดต่อกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ โดยเงินเฟ้อลด จากน้ำมันลด และได้รับผลดีจากมาตรการของรัฐ หากถามว่าต่อไปมีสิทธิ์เกิดเงินฝืดหรือไม่ ก็มีสิทธิ์ ต้องหาทางหลีกเลี่ยง ซึ่งนโยบายของรัฐบาล จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนมาก เช่น การผ่อนปรนการทำธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศขับเคลื่อนได้ และต้องเร่งส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย กินของไทย ใช้ของไทย เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.2563 ยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แม้สถานการณ์ด้านราคาพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ และความต้องการใช้น้ำมันของจีนและบางประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ และสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น จากภัยแล้ง แต่ราคาก็ถูกกดดันจากความต้องการที่ลดลง และฐานราคาสินค้าเกษตรในปีก่อนสูงมาก ทำให้เงินเฟ้อยังไม่เพิ่ม โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 2 เงินเฟ้อจะยังติดลบ 2.28% ส่วนไตรมาสที่ 3 และ 4 น่าจะดีขึ้น และเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ลบ 1.0% ถึงลบ 0.2% มีค่ากลางอยู่ที่ 0.6%