“ข้าวราคาดิ่ง” เร่งเก็บยุ้งฉาง

สถานการณ์การผลผลิตข้าวในมุม นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวเปลือกปี 2560/2561 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% จากปีก่อน ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียว เพราะพื้นที่ปลูกในภาคอีสานได้รับผลดีจากปริมาณน้ำมาก และผลดีจากโครงการนาแปลงใหญ่ ในปี 2560/2561 เพิ่มขึ้น 210,000 ไร่ จากปีก่อน 56,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลประกาศประชาสัมพันธ์เริ่มโครงการชะลอการขายข้าวเปลือก (จำนำยุ้งฉาง) ให้เร็ว เพื่อให้เริ่มทันในวันที่ 15 ตุลาคม 2560 จะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาได้ดี ชาวนาจะไม่นำข้าวไปขายก่อน เพราะหากนำข้าวมาเข้าโครงการยุ้งฉาง รัฐบาลกำหนดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเหนียวตันละ 10,800 บาท และเพิ่มค่าเก็บฝากอีก 1,500 บาท และค่าปรับปรุงอีกตันละ 1,200 บาท รวมแล้วเกษตรกรมีโอกาสจะได้รับราคาสูงขึ้น ตันละ 14,700-14,960 บาท หรือคิดเป็นราคาส่งออกที่ตันละ 850-1,000 เหรียญสหรัฐ แต่หากประกาศโครงการล่าช้า ชาวนาจะขายข้าวเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายก่อน ก็จะทำให้ราคาลดลงได้

นายสมศักดิ์ ตังพิทักษ์กุล เจ้าของโรงสีเลียงฮงไชย จ.ขอนแก่น ระบุว่า ผลผลิตข้าวนาปี 2560/2561 น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% แต่ที่น่าห่วงคือ ข้าวเปลือกเหนียว เพิ่มขึ้นทั้งข้าวเหนียวนาปรัง และข้าวเหนียว กข.6 โดยขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเหนียวนาปรัง (แห้ง) ตันละ 8,000 บาท จากปีก่อนตันละ 11,000 บาท เรียกว่าต่ำสุดในรอบ 5-6 ปี แต่ถ้าเป็นข้าวเหนียวนาปรังเกี่ยวสดในภาคเหนือ ราคาตันละ 5,000 บาทเท่านั้น

ขณะที่ข้าวเหนียว กข. 6 กำลังจะเก็บเกี่ยวช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ จะมีปัญหาด้านราคาลดลงไปอีก เพราะการส่งออกไม่ดี ราคาปลายข้าวเหนียวส่งออกลดลง จากต้นปีตันละ 17,000 บาท เหลือ 13,000 บาท ส่วนราคาข้าวสารเหนียว น่าจะลดลงเหลือตันละ 15,000-18,000 บาท จากปีก่อนเคยถึง 20,000 บาท ซึ่งอาจจะทำให้ข้าวเหนียวไหลเข้าสู่โครงการรับจำนำยุ้งฉางมากกว่าปีที่ผ่านมา