“พาณิชย์” เปิดตัว “Mobile Unit” ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่

กระทรวงพาณิชย์เปิดตัวร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (Mobile Unit) จัดทัพสินค้าราคา ถูกกว่าท้องตลาด 15-20% บริการให้กับผู้บริโภคถึงที่ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนกว่า 11.67 ล้านคน ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เผยมีผู้ผลิตรายใหญ่เข้าร่วมโครงการ 24 ราย และร้านค้าแจ้งความประสงค์จะติดตั้งเครื่องรูดบัตร (EDC) แล้วกว่า 16,175 ร้านค้า ใน 924 อำเภอ 6,329 ตำบล

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2560 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ, นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน, นางลลิดา จิระนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนางอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลังกรมบัญชีกลาง ได้จัดงานแถลงข่าวแถลงข่าวเปิดตัวร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ขึ้น ณ กระทรวงพาณิชย์

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้มีโครงการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อยผ่าน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” กำหนดผู้ได้รับสิทธิ 11.67 ล้านคน ช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนและการเดินทาง ซึ่งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้ชำระค่าสินค้า และบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กำหนด แต่ไม่สามารถถอนวงเงินสวัสดิการจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสดได้

โดยทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการลดค่า ครองชีพของประชาชนโดยร่วมมือกับกรมการค้าภายใน, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมบัญชีกลาง, สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และภาคเอกชน ภาคใต้โครงการธงฟ้าประชารัฐจัดจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพราคาลดพิเศษต่ำกว่าราคาปกติร้อยละ 15-20 ในร้านค้าปลีกแบบถาวร เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มทางเลือกให้แก่ ประชาชนได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มรายได้การจำหน่ายสินค้าให้แกร้านค้าปลีก

ทั้งนี้ 1.เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ได้อย่างทั่วถึง 2.เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าธงฟ้าประชารัฐ และอำนวยความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ และ 3.เพื่อประชาสัมพันธ์สิทธิของการใช้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรูปแบบของการซื้อสินค้า ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ให้เป็นที่รับทราบของประชาชนทั่วไป

สำหรับผู้ผลิตเข้าร่วมโครงการ 24 ราย ได้แก่ สหพัฒนพิบูล, P&G, เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, ยูนีลีเวอร์ไทย, ไทยฟู้ดแคนนิ่ง, ทวีชัย ฟู้ด, พูนสินทั่งง่วน ฮะ, โรงงานผลิตอาหารไทย, เจียเม้งมาร์เก็ตติ่ง, สหกรณ์การเกษตรพิมาย, องค์การคลังสินค้า, ทิปโก้, กรีนสปอต, น้ำมันพืชปทุม, ไร่ธัญญะ, ฟรีสแวนด์คัมพิน่า, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา, ไทยเซ็นทรัลเคมี, มหาวงศ์การเกษตร, เจียไต๋, โรจน์กสิกิจเฟอร์ติไลเซอร์, เอกยวงศ์, ไอ ซี พี เฟอทิไลเซอร์ และไอซี พี อินเตอร์เนชั่นแนล

กลุ่มสินค้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช, สินค้าอุปกรณ์การศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน, สินค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี ซึ่งสินค้าที่ร่วมโครงการจำนวน 46 รายการ

โครงการประชารัฐสวัสดิการ จัดทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ถือบัตรสวัสดิการประมาณ 11.43 ล้านคนทั่วประเทศ โดยผู้ถือบัตรสามารถซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐที่มีการติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC ได้ตามวงเงินและเงื่อนไขที่กรมบัญชีกลางกำหนดวงเงินรายเดือนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา วัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่นๆ ของกระทรวงพาณิชย์ สำหรับผู้ที่มีรายได้ 30,000 บาท ต่อปีได้รับวงเงินผ่านบัตร 200 บาทต่อเดือน ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับวงเงินผ่านบัตร 300 บาท ต่อเดือน

ส่วนการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ EDC กรมบัญชีกลาง ได้มอบหมายให้ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารอื่นๆ ดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้เร่งดำเนินการจัดหาร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้ได้ ตามเป้าหมาย 20,000 แห่ง โดยมีทุกตำบล อย่างน้อยตำบลละ 1 แห่ง ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ได้รับสิทธิ์ที่ขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไว้กับกรมบัญชีกลาง จำนวน 11.43 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเฉลี่ยประมาณ 600 คนต่อ 1 ร้าน และได้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูลกลาง ธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรอกข้อมูลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ธงฟ้าประชารัฐ

ปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในระบบฐานข้อมูลกลาง “ธงฟ้าประชารัฐ” ในกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัด โดยมีร้านค้าที่มีความประสงค์จะติดตั้งเครื่องรูดบัตร จำนวน 16,175 ร้านค้าใน 924 อำเภอ 6,329 ตำบล ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร มี 50 เขต 169 แขวง และ 76 จังหวัด มี 878 อำเภอ 7,256 ตำบล (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ย. 60)

สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่อง EDC นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ส่งรายชื่อร้านค้าที่ประสงค์จะติดตั้งเครื่อง EDC ให้กับกรมบัญชีกลางไปแล้วจำนวน 11,014 ร้านค้า ซึ่งเป็นร้านที่ประสงค์จะติดตั้งเครื่อง EDC และมีข้อมูล TAX ID (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ย. 60)

ส่วนธนาคารกรุงไทยได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรเรียบร้อยแล้ว 1,609 เครื่อง โดยกำหนดจะติดตั้งให้แล้วเสร็จทั้งหมดจำนวน 5,000 กว่าเครื่อง ภายใน 30 กันยายน 2560 นี้ ส่วนกรณีพื้นที่จังหวัดใดที่ยังไม่สามารถติดตั้งเครื่องรูดบัตร จะนำรถ Mobile Unit เข้าไปจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในระยะแรก โดยร้านธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ หรือโมบาย ยูนิต จะมีอย่างน้อย อำเภอละ 1 คัน เพื่อให้สามารถกระจายสินค้าธงฟ้าประชารัฐไปถึงผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการให้ครอบคลุมมากที่สุด


ในด้านการใช้สิทธิ์จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป ผู้มีสิทธิ์สามารถใช้สิทธิ์ตามวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อชำระค่าสินค้า และ บริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือร้านค้าที่กำหนด ได้แก่ 1.จุดรับชำระเงินตามร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด 2.จุดรับชำระเงินตามร้านค้าก๊าซที่กระทรวงพลังงานกำหนด 3.เครื่องแตะบัตรชำระเงินบนรถประจำทาง ขสมก./รถไฟฟ้า 4.จุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถ บขส. และจุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟทุกสถานี (รฟท.)