พาณิชย์จัดใหญ่เตรียม 250 โครงการ รุกตลาดส่งออกหลังโควิดทั่วโลกคลี่คลาย

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เตรียม 250 โครงการ รุกตลาดส่งออกทั่วโลกหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น เน้นทำการค้าทุกรูปแบบโดยเฉพาะการค้า การเจรจาผ่านระบบออนไลน์ หลังได้การตอบรับดี

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด -19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลายและหลายประเทศทั่วโลกได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กรมฯ ได้จัดเตรียมโครงการกว่า 250 โครงการ ในการบุกตลาดทั่วโลก พร้อมจับมือพันธมิตรทางการค้า เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งพันธมิตรแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ อาทิ Tmall, Alibaba (ตลาดจีน) Bigbasket (ตลาดอินเดีย) คลัง.com (ตลาดอาเซียน) และ Amazon (ตลาดอเมริกา) ในการสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมทางการค้าเพื่อสร้างรายได้และการเติบโตของการส่งออกไทย

ทั้งนี้ กิจกรรมที่กรมฯเตรียมนั้นได้เน้นกิจกรรมออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงกิจกรรมการส่งเสริมสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์ โมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก การยกระดับภาพลักษณ์สินค้าและธุรกิจบริการไทยในต่างประเทศ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Tmark, Demark, PM Award และ Thai Select รวมถึงการสร้างมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้กับสินค้าและบริการของไทย เช่น มาตรฐานด้านอาหาร ฮาลาล เกษตรอินทรีย์ การนำทัพผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศและการจัดงานแสดงสินค้าในไทย พร้อมจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาและข้อมูลเพื่อบุกตลาดต่างประเทศกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกผ่านกิจกรรม Online Export Clinic ที่จะเตรียมพร้อมส่งเสริมเอกชนไทยในการผลักดันการส่งออก

สำหรับกิจกรรมที่ผ่านมา เช่น การจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบออนไลน์แบบเสมือนจริงสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ภายใต้ชื่องาน Multimedia Online Virtual Exhibition (M.O.V.E.) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สามารถมีการจับคู่ธุรกิจกิจกว่า 350 คู่ สร้างรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท อีกทั้งยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ (Online business Matching) ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ในตลาดเกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อียิปต์ ในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าแฟชั่น สินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ถุงมือยาง เป็นต้น สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขาย ประมาณ 636.48 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ยังมีการกำหนดเจรจาในอีกหลายตลาดต่อเนื่องจนถึงเดือนกันยายน 2563 อีกด้วย

นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมฯวางแผนจัดงานแสดงสินค้าสินค้าอาหารเพื่อรองรับความต้องการซื้อจากทุกมุมโลก ทั้งในและต่างประเทศอาทิ THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 (วันที่ 22 – 26 กันยายน 2563) MIHAS ในประเทศมาเลเซีย (1 – 4 กันยายน 2563) FINE FOOD ในประเทศออสเตรเลีย (วันที่ 7 – 10 กันยายน 2563) งาน SEOUL FOOD & HOTEL ในประเทศเกาหลี (วันที่ 15 – 18 กันยายน 2563) งาน SIAL ในประเทศฝรั่งเศส (วันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2563) งาน BIOFACH ในประเทศเยอรมัน (วันที่ 17 – 20 กุมภาพันธ์ 2564 งาน GULFOOD ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (กุมภาพันธ์ 2564) และ FOODEX ในประเทศญี่ปุ่น (มีนาคม 2564)

นางนิศาบุษป์ วีรบุตร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า กรมฯ ยังได้ปรับรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ (STYLE Bangkok) สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ชื่อ STYLE Bangkok Telematching : Lifestyle Online Virtual Exhibition หรือ L.O.V.E ระหว่างวันที่ 11 – 14 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเสมือนจริงกับการจับคู่ธุรกิจผ่านออนไลน์ในที่เดียว และแพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าเสมือนจริงหลังงาน (Post Virtual Trade Show) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Online B2B Matching สำหรับสินค้ากลุ่มสินค้าเฉพาะ( Niche Market) เช่น กลุ่มสินค้าผู้สูงวัย กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะได้พบและเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าในต่างประเทศ โดยที่ผู้นำเข้าก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาอุปสรรคจากมาตรป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส