เงินเฟ้อ มิ.ย.2563 เริ่มฟื้น 1.57% หลังผ่านจุดต่ำสุดเหตุประชาชนระวังซื้อสินค้า

สนค.เผยเงินเฟ้อไทยเดือนมิถุนายน 2563 ลดลง 1.57% สัญญาณเริ่มฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุด ปัจจัยยังคงมาจากราคาน้ำมัน นโยบายรัฐ ลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ราคาสินค้า ยันไทยไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้ครึ่งปีหลังเงินเฟ้อจะติดลบ แต่ก็สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบ พร้อมปรับเงินเฟ้อทั้งปี ติดลบ 1.1%

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมิถุนายน 2563 เท่ากับ 101.32 ลดลง 1.57% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งลดลง 3.44% โดยสาเหตุมาจากมาตรการของรัฐ ลดค่าน้ำปะปา ค่าหระแสไฟฟ้า แนวโน้มของราคาพลังงานที่ยังลดลงต่อเนื่อง และราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวลดลงจากปัจจัยของโควิด-19 แต่ทั้งนี้ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันของการบริโภคและการจับจ่ายซื้อสินค้าของประชาชนที่ให้ความสำคัญในกลุ่มอุปโภคและบริโภค

ทั้งนี้ สนค.ได้ประเมินว่าตัวเลขเงินเฟ้อของไทยใหม่ทั้งปีอยู่ที่ ติดลบ 0.7 – ติดลบ 1.5% โดยค่ากลางอยู่ที่ ติดลบ 1.1% จากเดิมที่ประเมินไว้อยู่ที่ ติดลบ 0.2 – ติดลบ 1.0% โดยค่ากลางอยู่ที่ ติดลบ 0.6% ภายใต้สมมุติฐานมาจากราคาน้ำมันโดยประเมินว่าราคาน้ำมันทั้งปี 2563 อยู่ที่ 35-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30.5-32.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ ติดลบ 8.6 – ติดลบ 7.6% จากเดิมที่ประเมินไว้อยู่ที่ 5.8 – ติดลบ 4.8% แต่อย่างไรก็ดี แม้จะประเมินเงินเฟ้อทั้งปีติดลบแต่ก็อยู่ในสัญญาณที่ดีขึ้น ติดลบน้อยลงเพราะถือว่าเงินเฟ้อผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แม้ครึ่งปีหลังนี้เงินเฟ้อจะติดลบก็ตาม แต่ก็เป็นไปตามสัญญาณและสถานการณ์ภายในประเทศ ซึ่งก็มีผลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

อย่างไรก็ดี ยังเห็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อเริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดี และช่วงนี้ไม่ใช่ภาวะเงินฝืดอย่างแน่นอน เห็นได้จากสินค้าบางรายการปรับตัวดีขึ้นซึ่งก็เป็นไปตามสัญญาณที่ดีสอดคล้องกับการใช้จ่ายของประชาชน และผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ สำหรับครึ่งปีหลังนั้น เชื่อว่าเงินเฟ้อจะดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ เงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) ลดลง 1.13% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน 2563 ที่ลดลงในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 2.53% โดยเฉพาะหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลง 5.06% ตามน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง หมวดเคหสถาน ลดลง 1.70%

ขณะที่หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าสูงขึ้น 0.09% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลสูงขึ้น 0.19% ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.06% จากการสูงขึ้นของ ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ส่วนสินค้าที่ลดลง เช่น ผัดสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่และผลิตภัณฑ์นม

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการในเดือนมิถุนายน 2563 จำนวน 422 รายการ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามีสินค้าปรับสูงขึ้น 193 รายการ อาทิ ข้าวสารเหนียว น้ำมันพืช ต้นหอม ถั่วฝักยาว ผักชี เนื้อสุกร กับข้าวสำเร็จรูป อาหารเช้า ค่าเช่าบ้าน สินค้าลดลง 151 รายการ อาทิ แก๊สโซฮออล์ 91 แก๊สโซฮอลล์ 95 แก๊สโซฮอลล์ E20 น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน 95 ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำปะปา พริกสด เงาะ และสินค้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา 78 รายการ