“ซีพีเอฟ” ยกเครื่องคุมเข้มซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้องไม่รุกป่า

ซีพีเอฟผนึกบริษัทในเครือซีพี ยกระดับเข้มนโยบายรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม่บุกรุกป่า ตอกย้ำ ทำธุรกิจ ร่วมพัฒนาเกษตรกรและคู่ค้าโตไปด้วยกัน

นายไพศาล เครือวงศ์วานิช รองประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้ซีพีเอฟ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยยกระดับระบบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สนับสนุนให้คู่ค้ามีส่วนร่วมในระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อความแม่นยำและโปร่งใสยิ่งขึ้น

โดยการประกาศรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง และใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Corn Traceability) ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่ยืนยันเจตนารมย์การจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรที่มาจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีฐานข้อมูลในระบบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืน

พร้อมทั้งเดินหน้าขับเคลื่อนนำระบบบริหาร และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่งเสริมการใช้ระบบ GPS เพื่อติดตามรถขนส่ง รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้มีความถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับการยกระดับระบบตรวจสอบย้อนกลับดังกล่าว บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากคู่ค้าธุรกิจและผู้รวบรวมข้าวโพดในการติดตั้งระบบ GPS Tracking บนรถขนส่งทุกคัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เพื่อใช้ในติดตามข้อมูลแบบ real time สำหรับการขนส่งข้าวโพดเข้าสู่โรงงานอาหารสัตว์ซีพีเอฟในเขตประเทศไทยได้ครบ 100% ทำให้ระบบตรวจสอบย้อนกลับมีความแม่นยำและโปร่งใสยิ่งขึ้น ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถอำนวยความสะดวก เพิ่มความคล่องตัว และประสิทธิภาพการขนส่งให้แก่คู่ค้าอีกด้วย

พร้อมกันนี้ ซีพีเอฟ ยังเริ่มนำระบบตรวจสอบย้อนกลับดังกล่าวไปขยายผลในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยซีพีเอฟ และกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ประกาศรับซื้อผลผลิตข้าวโพดจากแหล่งผลิตที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องในเขตประเทศเมียนมา ภายใต้ระบบตรวจสอบย้อนกลับเท่านั้น โดยเกษตรกรมอบความมั่นใจให้กับโรงงานอาหารสัตว์ซีพีเขตประเทศเมียนมาและร่วมลงชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนตามการกำหนดมาตรฐานการรับซื้อจากแหล่งผลผลิตข้าวโพดที่มีเอกสารสิทธิ์ และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรในห่วงโซ่การผลิตอาหารทั้งคู่ค้าธุรกิจต่อเนื่องจนถึงเกษตรกร เพื่อให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2558 ส่งเสริมเกษตรกรให้มีความรู้สมัยใหม่ในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ต้นทุนการผลิตลดลง พัฒนาผลผลิตที่มีคุณภาพสามารถขายตรงให้กับโรงงานอาหารสัตว์ได้ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูกที่ถูกต้อง การวิเคราะห์ดิน การใช้ปุ๋ย การใช้สารเคมีที่เหมาะสม รวมทั้งกระบวนการจัดการหลังเก็บเกี่ยวเพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิต โดยในปี 2563 นี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายผลโครงการในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด อ.สีคิ้ว และ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ตั้งเป้าส่งเสริมเกษตรกรทั้งสิ้น 1,000 ราย พื้นที่เพาะปลูก 30,000 ไร่

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ยังได้ร่วมกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ดำเนินแผนงานโครงการ ความร่วมมือพัฒนาคู่ค้าสู่ระบบมาตรฐานแรงงานไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถของคู่ค้าในหลากหลายธุรกิจ และผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในห่วงโซ่อุปทานมีการบริหารจัดการแรงงานด้วยความรับผิดชอบและถูกต้องตามกฎหมาย และผลักดันให้ผู้ประกอบการได้การรับรองมาตรฐานแรงงานไทยอีกด้วย เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ลดความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอีกองค์ประกอบหนึ่งของนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืน