ครม.ไฟเขียวเก็บค่าธรรมเนียมมลพิษขยายถึงท่าเรือ-แหล่งปิโตรเลียมในทะเล

แฟ้มภาพประกอบข่าว

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. …. สาระสำคัญ ให้ขยายไปถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ 200 ไมล์ทะเลจากฝั่ง เขตไหล่ทวีปและทะเลหลวง อาทิ โครงการท่าเรือหรือแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่ยื่นลงไปในทะเล แต่ไม่ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ให้เจ้าของโครงการหรือกิจการต้องชำระค่าธรรมเนียมการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยให้นำส่งเข้ากองทุนสิ่งแวดล้อม

เพิ่มโทษผู้ดำเนินการก่อสร้างหรือดำเนินโครงการหรือกิจกรรมก่อนการเสนอรายงาน EIA เป็นโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาทหากยังฝ่าฝืน เจ้าของแหล่งกำเนิดมลพิษที่ก่อให้เกิดการรั่วไหลหรือแพร่กระจายมลพิษต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหายในอัตราไม่เกิน 2 เท่าของค่าเสียหายจริง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่หน่วยงานรัฐต้องใช้ในการขจัดมลพิษและฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ร่างกายหรือสุขภาพบุคคลอื่น

เพิ่มเติมหลักการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการปล่อยมลพิษ การวางหลักประกันความเสี่ยงหรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ให้กองทุนสิ่งแวดล้อมขึ้นกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจัดทำรายงาน EIA ปีละ 5,000 บาท ค่าธรรมเนียมการพิจารณารายงาน EIA โครงการละ 100,000 บาท ค่าธรรมเนียมการปล่อยมลพิษ ปีละ 10,000 บาทต่อตันมลพิษ