“สถาบันอาหาร” ลงนามข้อตกลง MOU กับ “หอการค้าไทย” หนุนสมาชิก 95,000 ราย พัฒนาสินค้า มอบส่วนลดพิเศษ
สถาบันอาหาร จับมือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ลงนาม MOU ร่วมกันส่งเสริมสมาชิก 95,000 ราย พัฒนาสินค้า-บริการ การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและอาหารด้วยนวัตกรรม พร้อมแจกส่วนลดค่าบริการ 5-30%
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า วันนี้ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สถาบันอาหารและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนางานด้านอุตสาหกรรมอาหารของประเทศให้มีความเข้มแข็ง และมีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ขอบเขตความร่วมมือครั้งนี้ จะครอบคลุมถึง การพัฒนาอาหารให้ตรงตามความต้องการของตลาดสู่เชิงพาณิชย์อย่างครบวงจร การส่งเสริมด้านอาหารในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ช่องทางการตลาด การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า การพัฒนาบุคลากรเพื่อการแข่งขัน และการถ่ายทอดความรู้ในการบริหารจัดการ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ สถาบันอาหาร จะมอบส่วนลด 5 – 30 % ให้สมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯในการใช้บริการของสถาบันอาหาร ซึ่งสถาบันจะช่วยจะให้คำปรึกษา บริการ และสิทธิพิเศษ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการ
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เอ็มโอยูดังกล่าวจะเป็นการยกระดับความร่วมมือและเครือข่ายระหว่างองค์กรที่สำคัญ ที่จะร่วมกันพัฒนาด้านอาหารตามความต้องการของตลาดสู่เชิงพาณิชย์อย่างครบวงจร โดยสถาบันอาหาร จะเป็น Think Tank ให้สมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเครือข่าย 95,000 ราย สามารถพัฒนาสินค้าและบริการ
“ธุรกิจเกษตรและอาหาร นับเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประชาชน 7.9 ล้านครัวเรือน มีพื้นที่เกษตรกรรม 149 ล้านไร่ มีแรงงานกว่า 11.88 ล้านคน คาดว่าจะสามารถส่งออก ถึง 1,025,000 ล้านบาท ในปีนี้ แต่ภาคเกษตรต้องเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภัยแล้ง ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน การขาดมาตรฐานสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจเกษตร”
นายพจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญกับ 3 เสาธุรกิจหลัก (Value Chains) ได้แก่ 1. ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ 2. ภาคการค้าและการลงทุน และ 3. ภาคเกษตรและอาหาร เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และพันธกิจของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย