คลังเปิดตัว “คนละครึ่ง” เว็บไซต์ลงทะเบียนรับเงิน ชิมช้อปใช้ 3 พันบาท

ภาพประกอบข่าว ธนบัตร เศรษฐกิจ

กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com สำหรับลงทะเบียน รับเงิน 3,000 บาท จำนวน 15 ล้านคน เดือนตุลาคม หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนกว่า 9 หมื่นล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยวันนี้ (3 ก.ย.) ถึงมาตรการกระตุ้นการบริโภค ด้วยการแจกเงิน 3,000 บาท ให้กับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 15 ล้านคน โครงการจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com กลางเดือน ต.ค. นี้

ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่า ชื่อของโครงการและเว็บไซต์ดังกล่าว มีจุดประสงค์เพื่อสื่อสารให้ชัดเจนว่า มาตรการนี้รัฐไม่ใช่การแจกเงินอย่างเดียว แต่ผู้มีสิทธิต้องร่วมจ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคด้วยครึ่งหนึ่ง

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กำลังเร่งสรุปรายละเอียดทั้งหมด เพื่อเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการเตรียมพร้อมระบบการลงทะเบียนและงบประมาณให้ทันกลางเดือน ต.ค. นี้

เงื่อนไขลงทะเบียน

สำหรับเงื่อนไขของโครงการประชาชนที่สัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน เพราะเป็นมาตรการต้องการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายจริงๆ

สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้ ก็จะนำร้านค้าจากโครงการ “ชิมช้อปใช้” ประมาณ 5-6 หมื่นร้านค้า และจะมีการลงพื้นที่เพื่อให้ร้านค้าหาบเร่แผงลอยเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด

ขณะที่การเปิดให้ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ เช่น ร้านเซเว่น ห้างสรรพสินค้า เข้าร่วมโครงการด้วย ก็ยังพิจารณาอยู่ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเป้าหมายคือต้องการให้เกิดการใช่จ่ายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากที่สุด

ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดวิธีการใช้งานว่า จะต้องใช้จ่ายด้วยบัญชี g-Wallet ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” หรือ “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย ในลักษณะเดียวกับหลายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่ ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ดังกล่าวยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ในขณะนี้

ทุ่ม 4.5 หมื่นล้าน หวังกระตุ้น 9 หมื่นล้าน

“โครงการนี้กำหนดไว้ 15 ล้านคน ซึ่งเป็นการร่วมจ่ายการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคคนละครึ่ง ระหว่างผู้ได้สิทธิกับรัฐบาลคนละครึ่ง จึงอยากให้ผู้ได้สิทธิมีกำลังและต้องการซื้อจริง หากมีคนลงทะเบียนเกินจำนวนมาก ก็สามารถเสนอให้รัฐบาลขยายได้ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” นายลวรณ กล่าว

สำหรับโครงการดังกล่าว คาดว่าจะใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท หากมีคนมาใช้สิทธิเต็มจำนวน 15 ล้านคน และใช้เงินหมด 3,000 บาท จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 9 หมื่นล้านบาท