ซีพีเอฟ หนุนพลังงานทดแทน วางเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25%

ซีพีเอฟ หนุนพลังงานทดแทน

‘ซีพีเอฟ’ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนทั้งโซล่าร์รูฟท็อป ไบโอก๊าซและพลังงานจากชีวมวล ในกระบวนการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพใช้พลังงาน ตามเป้าหมายบริษัทฯ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ในปี 2568

วันที่ 5 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทดำเนินการตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตลอดห่วงโซ่การผลิต เช่น นำชิ้นเนื้อจากกระบวนการผลิตไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มมูลค่า ระบบหมุนเวียนน้ำในฟาร์มกุ้ง และใช้พลังงานหมุนเวียน

โดยกำหนดเป้าหมายการลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตลง 15% ในปี 2568 เทียบกับปี 2558 ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการโซล่าร์ รูฟท็อป บนหลังคาโรงงานและอาคารสำนัก 24 แห่ง จะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563 และโครงการนำร่องโซล่าร์เซลล์แบบติดตั้งบนพื้นดินในฟาร์มสุกร 16 แห่ง และขยายสู่ทุกฟาร์มสุกรทั่วประเทศ และตั้งเป้าหมายยกเลิกการใช้ถ่านหินภายในปี 2565

ทั้งนีในปี 2562 ธุรกิจของ ซีพีเอฟ ในประเทศไทย มีการใช้พลังงานหมุนเวียนคิดเป็นสัดส่วน 26% ของการใช้พลังงานทั้งหมด แยกเป็นพลังงานจากชีวมวล (เศษไม้ ขี้เลื่อย ซังข้าวโพด) 1.857 ล้านกิกะจูล พลังงานจากไบโอก๊าซ 1.017 ล้านกิกะจูล และพลังงานแสงอาทิตย์ 439 กิกะจูล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 425,000 ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซดเทียบเท่าต่อปี ประหยัดเงินได้กว่า 250 ล้านบาท

“ซีพีเอฟ ตระหนักดีถึงความรับผิดชอบต่อการจัดการพลังงาน โดยบริษัทฯมีการปรับเทคโนโลยีสนับสนุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เหมาะสมตลอดกระบวนการผลิตมากขึ้นโดยเฉพาะโซล่าร์เซลล์ ทั้งแบบติดตั้งบนหลังคาและติดตั้งบนพื้นดิน ตามเป้าหมายของบริษัทฯ ในการลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตให้ได้สูงสุด” นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟ กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ในปี 2568 เมื่อเทียบกับปีฐานปี 2558 ตลอดจนจะยกเลิกการใช้ถ่านหินภายในปี 2565

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนบริหารจัดการพลังงานที่ดี มีการตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์และเครื่องจักรสม่ำเสมอ การเลือกใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่อย่างสมดุล เพื่อการเดินหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารมั่นคงและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยครัวของโลกที่ยั่งยืน