WHA ลดเป้ายอดขายนิคมฯ เหลือ 900 ไร่ ร่วมทุนจีนปั้น Start up

ธุรกิจโลจิสติกส์ดัน “WHA Group” ฟื้นแม้ลดเป้ายอดขายที่ดินในนิคมฯ เหลือ 900 ไร่ จาก 1,400 ไร่ มั่นใจครึ่งปีหลังความต้องการด้านสาธารณูปโภคน้ำ ไฟฟ้า และแพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่ม จับมือ “ทัส-โฮลดิ้งส์” ผู้พัฒนาศูนย์บ่มเพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำจากจีน ตั้งขับเคลื่อนสตาร์ทอัพ เตรียมตั้ง ศูนย์สร้างนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ “ทัสพาร์ค ดับบลิวเอชเอ” แห่งแรกในประเทศไทย ในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันที่ 22 กันยายน 2563 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า ครึ่งปีหลังธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี จากการผนึกกำลังกับพันธมิตรในระยะยาว และยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

โดยครึ่งแรกของปี 2563 มีการลงนามในสัญญาเพื่อเช่าคลังสินค้าแบบ Buit-to-Suit รวมถึงโรงงานสำเร็จรูป (RBF) และคลังสินค้าสำเร็จรูป (RBW) ไปแล้วเกือบ 100,000 ตารางเมตร และในไตรมาสที่ 3 ลงนามสัญญาอีกประมาณ 40,000 ตารางเมตร

นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าอีกกว่า 170,000 ตารางเมตรกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจอาหาร และธุรกิจผู้ประกอบการโลจิสติกส์ คาดว่าพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารทั้งหมดของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,560,000 ตารางเมตร ภายในสิ้นปี 2563 นี้

และเตรียมนำเทคโนโลยี นวัตกรรมขั้นสูงมาใช้ในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ อาทิ เทคโนโลยี 5G, อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT), ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS) และรถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (AGV) ตั้งเป้ายอดขายพื้นที่คลังสินค้า Built-to-Suit จำนวน 130,000 ตารางเมตร เข้ากองทรัสต์ WHART และพื้นที่โรงงาน RBF และคลังสินค้า RBW จำนวน 50,000 ตารางเมตร เข้ากองทรัสต์ HREIT คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินรวม 4,600 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม การก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 เป็นแห่งที่ 11 จะเริ่มไตรมาส 4 นี้ และเตรียมขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ในพื้นที่ EEC และเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี 2 เพื่อรองรับนักลงทุนที่วางแผนย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย จากผลกระทบของความตึงเครียดทางการค้าหรือการหยุดชะงักของซัพพลายเชน ทั้งนี้ได้ปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 2563 เหลือเพียง 900 ไร่ ในประเทศไทย 600 ไร่ และประเทศเวียดนาม 300 ไร่

ล่าสุดบริษัทร่วมทุนบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) ตั้งบริษัท บีไอจี ดับบลิวเอชเอ อินดัสเทรียล แก๊ส จำกัด เพื่อสร้างโรงผลิตก๊าซอุตสาหกรรมและระบบท่อส่งก๊าซ บริการลูกค้าที่ต้องการใช้ไนโตรเจนในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) และนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ  อีสเทิร์นซีบอร์ด 1  ซึ่งเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญของไทย และเตรียมขยายการให้บริการไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ

และตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ทัส จำกัด ร่วมกับ ทัส-โฮลดิ้งส์ ผู้พัฒนาศูนย์บ่มเพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศจีน ภายใต้มหาวิทยาลัยชิงหวา มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจีน โดยดับบลิวเอชเอ ทัส จะจัดตั้งศูนย์สร้างนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจภายใต้ชื่อ “ทัสพาร์ค ดับบลิวเอชเอ” แห่งแรกในประเทศไทย ในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนสตาร์ทอัพและส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างจีนและประเทศไทย ตลอดจนประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ตั้งเป้าที่จะขยายบริการน้ำแบบครบวงจรไปยังลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรม และขยายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า ได้แก่ โครงการการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด (Desalination) ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในครึ่งปีหลังนี้ จะมีอีก 13 โครงการ กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ ที่จะดำเนินการเชิงพาณิชย์

ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ได้ติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมไป 6 แห่ง เหลือ 4 แห่งที่เร่งดำเนินการ นอกจากนี้ยังให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์กับลูกค้ารายใหญ่ภายในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำอีกหลายราย