2 หน่วยงานหลักพาณิชย์ จับมือชี้ช่องทางเจาะตลาดจีน

2 หน่วยงานหลักพาณิชย์ จับมือชี้ช่องทางเจาะตลาดจีน สิทธิประโยชน์ ช่องทางออนไลน์ งานแสดงสินค้า มั่นใจขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นในจีน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานสัมมนา “1 ทศวรรษ เอฟทีเอ อาเซียน–จีน … ก้าวต่อไปของเอกชนไทยในแดนมังกร” เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเห็นถึงโอกาสในการขยายการค้ากับจีน โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการไปตลาดจีน

ปัจจุบัน พบว่า จีนได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าให้ไทยแล้วกว่า 95% ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น ผัก ผลไม้ เม็ดพลาสติก สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม สตาร์ชมันสำปะหลัง เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และน้ำยางธรรมชาติและสังเคราะห์ เป็นต้น ส่วนไทยได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าให้กับสินค้าจากจีนแล้ว 89% ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น ผัก ผลไม้ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกล และเม็ดพลาสติก เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลจากการปรับลดภาษี ทำให้การค้าสองฝ่ายเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน นับตั้งแต่ก่อนมี FTA ในปี 2547 จนถึงปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 420% โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่ได้ประโยชน์จาก FTA ฉบับนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ทุเรียน ฝรั่ง มะม่วง มังคุด รถยนต์เอสยูวี และสตาร์ชมันสำปะหลัง เป็นต้น

สำหรับการค้าระหว่างอาเซียน-จีน มีมูลค่า 641,470 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.1% จากปี 2561 โดยจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียนเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของจีน เป็นครั้งแรกในปี 2563 ขณะที่การค้าระหว่างไทย-จีน มีมูลค่า 79,440 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 16.46% ของการค้าไทยกับโลก โดยจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย และไทยส่งออกไปจีนมูลค่า 29,169.5 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์และส่วนประกอบ

ขณะที่ไทยนำเข้าจากจีน 50,270.6 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

ส่วนการค้าไทย-จีนในช่วง 8 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 51,723.89 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.26% โดยไทยส่งออกไปจีน 19,625.27 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากจีน 32,098.63 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แผนการทำตลาดจีน กรมฯ ได้มอบให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำประเทศจีน เน้นจัดกิจกรรมในตลาดเมืองรองของจีนให้เพิ่มมากขึ้น เพราะหลายเมือง หลายมณฑลมีศักยภาพที่ไทยจะผลักดันการส่งออกได้ กรมฯพร้อมจัดคณะนักธุรกิจเดินทางไปเจรจาการค้าต่อไป

นอกจากนี้ กรมฯ ได้ผลักดันตลาดสินค้าและบริการยุค New normal เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออก โดยเน้นกลุ่มสินค้าด้านอาหารปลอดภัยและอาหารเพื่อสุขภาพ กลุ่มสินค้าเกษตร ผ่านกิจกรรม Sourcing และจับคู่การค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก และยังขยายตลาดการค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มพันธมิตร การเจรจาธุรกิจแบบออนไลน์ รวมทั้งใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิด มาช่วยในการแนะนำสินค้าไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจาะตลาดจีน

ขณะเดียวกัน จะนำภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศจีน โดยในเดือนพ.ย.2563 จะมีงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของจีน เช่น งานแสดงสินค้านำเข้าจีน (CIIE) ที่นครเซี่ยงไฮ้ และงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน (CAEXPO) ที่นครหนานหนิง ซึ่งทั้ง 2 งาน กรมฯ ได้เตรียมจัดนิทรรศการแสดงศักยภาพสินค้าไทยภายใต้คอนเซ็ป “คิดถึงความปลอดภัย และ Refinement คิดถึงประเทศไทย” ด้วย