อุปทูตจีนหนุนสัมพันธ์อาเซียน สานต่อลดภาษี FTA ดันยอดการค้าฝ่าโควิด

ส่งอกสินค้า-ท่าเรือ

“อุปทูตจีน” เดินหน้ากระชับสัมพันธ์อาเซียน หนุนการค้าเสรีฝ่าโควิดด้านกรมเจรจาฯ แนะเอกชนร่วมงานCIIE 2020 พร้อมเร่งเจรจาลดภาษีสินค้าอ่อนไหวอาเซียน-จีนลอตสุดท้าย มั่นใจดันยอดการค้าทะลุเป้า1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐปี 2564 หลังผลสำเร็จเอฟทีเอไทย-จีน 5 ปี ช่วยหนุนการค้าเติบโต 420%

นายหยาง ซิน อุปทูตสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวในงาน”1 ทศวรรษ เอฟทีเอ อาเซียน-จีนก้าวต่อไปของเอกชนไทยในแดนมังกร” ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นโยบายของรัฐบาลจีนยังคงให้ความสำคัญกับการกระชับความร่วมมือ การจัดทำข้อตกลงทางการค้ากับทุกประเทศ การสร้างความสัมพันธ์ด้านพหุภาคีกับองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อส่งเสริมการค้าเสรีต่อกัน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบันโลกจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การค้าระหว่างไทย-จีนยังเติบโตเป็นที่น่าพอใจ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังเติบโต แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่น ในไตรมาส 2/2563 ยังขยายตัว 3.2% ซึ่งทางจีนเตรียมจัดงาน China International Import Expo 2020 (CIIE 2020) ขึ้นในวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2563 ที่นครเซี่ยงไฮ้ งานนี้จะเป็นการจัดแสดงสินค้านำเข้าจากทั่วโลก ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสนี้นำสินค้าไปแสดงโดยผ่านตัวแทนจำหน่าย และใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) สร้างแต้มต่อทางการค้า

“ที่ผ่านมาทั้งไทยและจีนมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การลดอุปสรรคการค้าระหว่างกัน โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 140,000 ล้านเหรียญสรัฐ จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 79,440 ล้านเหรียญสหรัฐ”

นางอุมาพร ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง กล่าวว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียนเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 641,470 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.1% ซึ่งกรมอยู่ระหว่างเจรจาความตกลง ACFTA เพื่อลดภาษีสินค้าลอตสุดท้าย กลุ่มสินค้าอ่อนไหว 369 รายการ อาทิ ข้าว กระดาษแข็ง เป็นต้น จากปัจจุบันจีนยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าไทยแล้วกว่า 95% ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น ผัก ผลไม้เม็ดพลาสติก สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มสตาร์ชมันสำปะหลัง เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนไทยก็ยกเลิกภาษีนำเข้าให้สินค้าจีน 89% ของสินค้าทั้งหมด เช่น ผัก ผลไม้ เคมีภัณฑ์เครื่องจักรกล และพลาสติก เป็นต้น

“ผลจากการลดภาษีทำให้การค้าสองฝ่ายเติบโตมาก หากเทียบตั้งแต่ก่อนมี FTA ในปี 2547 จนถึงปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 420% จีนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย สินค้าไทยที่ได้ประโยชน์จาก FTA ฉบับนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ทุเรียน ฝรั่ง มะม่วง มังคุด รถเอสยูวี และแป้งมัน”

นายสุวัฒน์ รักทองสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เลิศ โกลบอล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ จีนเติบโตสูงถึง 47% สินค้าที่นิยมซื้อขาย เช่น อาหารเครื่องสำอาง สุขภาพ เป็นต้น หรือธุรกิจการค้าผ่านออนไลน์ตั้งแต่สินค้าชิ้นเล็กจนถึงสินค้าขนาดใหญ่อย่างอสังหาริมทรัพย์ก็มี สามารถสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ใช้วิธีการไลฟ์สดขายสินค้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง


ตารางการค้าอาเซียน-จีน