แผนระบายสต๊อกข้าวรัฐสะดุด 7 ล้านตันเคว้ง-ขาย “จีทูจี” คอฟโก้ชะงัก

แผนระบายข้าว-ขายจีทูจีจีน ชะงักเกือบ 2 เดือน รัฐเกียร์ว่างหลัง “ดวงพร” เกษียณ ด้านผู้ส่งออกลุ้นออร์เดอร์จีนโค้งสุดท้าย หลังเร่งปั๊มยอดส่งออกข้าวไทยทะลุ 11 ล้านตัน รับมือข้าวนาปีทะลัก 8 ล้านตันข้าวเปลือก 

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และตัวแทนสมาชิกสมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปี 2560/2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2559/2560 ประมาณ 5-10%

“ปีก่อนหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีข้าวเปลือกมากถึง 10 ล้านตัน แต่จากการประเมินน่าจะผลิตได้เพียง 7 ล้านตัน เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 ถึงเดือนสิงหาคม 2560 ส่งออกได้ 1.48 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็น 3.5 ล้านตันข้าวเปลือก และสต๊อกโรงสีปัจจุบันเหลือข้าวไม่เกิน 1 ล้านตัน รวมกับข้าวสารที่ใช้บริโภคในประเทศในช่วง 10 เดือนอีกประมาณ 2.5 ล้านตัน แต่ปีนี้ปริมาณน้ำมาก ผลผลิตข้าวในนาดอนไม่เสียหายน่าจะมีข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น จึงทำให้ราคาข้าวมีแนวโน้มอ่อนตัวลง โรงสีเป็นห่วงว่าภาครัฐขอความร่วมมือให้ซื้อข้าวจากนาแปลงใหญ่ราคาสูงนำตลาด นำมาสีเป็นข้าวสารแล้วก็จะมีต้นทุนสูง ไม่แน่ใจว่าทางผู้ส่งออกจะรับซื้อโดยให้ราคาที่สอดรับกันหรือไม่”

ขณะที่ปัญหาการส่งมอบข้าวให้รัฐวิสาหกิจจีน คอฟโก้ หลังจากที่รัฐบาลได้มีการลงนามซื้อขายข้าวสาร ปริมาณ 1 ล้านตันในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งได้ทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงมิถุนายน 2560 ไปแล้ว 4 ลอต ซึ่งได้จัดสรรให้สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยส่งมอบ แต่ราคาข้าวหลังจากรับออร์เดอร์ปรับขึ้นจากตันละ 11,800 บาท เป็น 14,500 บาท ผู้ส่งออกขาดทุนตันละ 3,000 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท

“ขณะนี้การเจรจาในส่วนที่เหลือหยุดชะงักมาหลายเดือน ตอนนี้นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ประธานคณะทำงานระบายข้าว เกษียณไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมายังไม่ได้แต่งตั้งใหม่ การซื้อขายข้าวทุกอย่างก็ยังนิ่งทั้งออร์เดอร์จีทูจี และเรื่องการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ยังเหลืออีก 7-8 ล้านตัน”

ทั้งนี้ การระบายข้าวนั้นได้ชะงักมาหลังจาก บริษัท ทีพีเค เอทานอล จำกัด ร้องต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประมูลข้าวข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหารคนและสัตว์ครั้งที่ 1/2560 แต่กรมการค้าต่างประเทศอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ให้กรมการค้าต่างประเทศสามารถดำเนินการระบายต่อไปได้ แต่จนถึงขณะนี้ทางกรมยังไม่ได้เปิดประมูลและไม่ได้เรียกผู้ประกอบการที่ชนะการประมูล 16 รายมาทำสัญญา และไม่ได้ดำเนินการระบายข้าวอีกเลย

ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ผลการที่สมาคมลงพื้นที่ประชุมสัญจรที่ จ.ขอนแก่น ประเมินว่ามีพื้นที่ปลูกข้าวเต็มเกือบ 100% ไม่ได้

รับผลกระทบจากภาวะอุทกภัย ในพื้นที่นาดอนยังดี ผลผลิตน่าจะเพิ่มขึ้น 5-10% ปริมาณ 8 ล้านตันข้าวเปลือก

“ช่วงต้นฤดูของปีก่อนคาดว่าข้าวจะมีมากถึง 10 ล้านตัน จึงตั้งราคาลงไปเหลือตันละ 650 เหรียญสหรัฐ แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น ผลคือ ปีนี้ไม่ค่อยกล้าซื้อเท่าไร ราคาส่งออกยังทรงที่ตันละ 1,000 สหรัฐจากราคาข้าวเก่าขยับขึ้น ส่วนข้าวใหม่ยังไม่ออก”

ทั้งนี้ สมาคมคาดว่ามีโอกาสจะปรับขึ้นไปถึงเกือบ 11 ล้านตัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 10.5 ล้านตัน เนื่องจากหลายประเทศมีปัญหาภัยธรรมชาติ ต้องนำเข้าข้าวเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังปัจจัยเสี่ยงปริมาณผลผลิตคู่แข่ง โดยเฉพาะอินเดียไม่ได้ปรับลดลง ขณะที่ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักในการบริโภคข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู ยังไม่ได้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากนัก

“ตลาดจีนต้องรอสัญญาณการสั่งซื้อในช่วงปลายปีเพื่อใช้ในเทศกาลตรุษจีน และต้องรอดูความต่อเนื่องของการเจรจาขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ระหว่างรัฐบาลไทยและคอฟโก้ ซึ่งส่งมอบไปแล้ว 4 ลอต แต่ยังเหลือยังค้างอยู่ (pending) ว่าจะเป็นอย่างไร”

ล่าสุดรัฐบาลบังกลาเทศมีคำสั่งซื้อจีทูจีข้าวนึ่งกับกรมการค้าต่างประเทศ 1.5 แสนตัน ราคาซีแอนด์เอฟตันละ 465 เหรียญสหรัฐ ซึ่งสมาคม จะจัดสรรให้ผู้ส่งออกเริ่มส่งมอบเดือนหน้า